วัชพืชเถาเลื้อย ภัยร้ายในไร่อ้อย
ใครจะรู้ว่า..
เถาเลื้อยเส้นเล็กเส้นน้อยที่กลาดเกลื่อนในไร่จะเป็นศัตรูร้ายอีกตัวของเกษตรกร เพราะทุกวันนี้การทำไร่อ้อยสมัยใหม่เราใช้เครื่องจักรทำงานแทนคนมากขึ้น ความยาว ความเลื้อยไปทุกที่ของ “วัชพืชเถาเลื้อย” จึงเป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยเฉพาะรถตัดอ้อยที่เถาเลื้อยเจ้ากรรมจะเข้าไปพันเกลียวแบ่งอ้อยจนไม่สามารถตัดอ้อยได้
มาดูกันสิว่า วัชพืชเถาเลื้อยที่พบมากและเป็นปัญหาในไร่อ้อยที่สุดมีอะไรบ้าง
- ผักบุ้ง (Ipomoea aquatica)
- มะระขี้นก (Momordica charantia)
- บวบ (Luffa cylindrical (Linn.) M.J Roem.)
- ตดหมูตดหมา (Paedaria foetida)
- จิงจ้อดอกขาว (Operculina turpethum (L.) Sativa Manso.)
- จิงจ้อเหลือง (Merremia vitifolia)
- สะอึกดอกขาว (Ipomoea obscura)
- จิงจ้อเหลี่ยม Operculina turpethum
- Merremia dissecta (ยังไม่มีชื่อไทย ลักษณะมีใบห้าแฉก)
การแพร่กระจายของวัชพืชเถาเลื้อยนั้นแพร่กระจายรุนแรงมากในพื้นที่ดินเหนียวและดินทราย ทั้งในอ้อยปลูกใหม่และอ้อยตอ เนื่องจากวัชพืชประเภทเถาเลื้อยสามารถเจริญเติบโต ออกดอก ติดเมล็ด แพร่กระจายและสะสมในแปลงอ้อยได้อย่างรวดเร็วทั้งจากสัตว์และการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร
ข้อควรระวัง
- สารกำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกที่นิยมใช้ในปัจจุบันไม่สามารถควบคุมวัชพืชเถาเลื้อยได้ จึงต้องใช้สารกำจัดวัชพืชแบบหลังงอกที่เลือกทำลายเฉพาะวัชพืชใบกว้าง เช่น ทู โฟร์ ดี, ไตรคลอเพอร์ หรือทู โฟร์ ดี + พิคลอแรม เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้มีปริมาณสารออกฤทธิ์สูงและต้องใช้ในปริมาณมาก อีกทั้งวัชพืชประเภทเถาเลื้อยจะงอกไม่พร้อมกันจึงทำให้ยากต่อการกำจัด
- วัชพืช กับ อ้อย จะแข่งกันเติบโตและแย่งอาหาร ซึ่งจุดวิกฤติการแข่งขันของอ้อยกับวัชพืชจะอยู่ในระยะแรกของการเจริญเติบโต ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงระยะแตกหน่อ เพราะว่าในช่วงนี้อ้อยจะมีศักยภาพการงอกและการเจริญเติบโตต่ำกว่าวัชพืชมาก ดังนั้นหากมีวัชพืชมากก็จะทำให้อ้อยชะงักการเจริญเติบโตได้ รากอ้อยที่สร้างใหม่ยังไม่แข็งแรง การแตกหน่ออ้อยและการย่างปล้องไม่เต็มที่ จึงเป็นสาเหตุให้ผลผลิตอ้อยลดต่ำลง
- อ้อยต้องการช่วงปลอดวัชพืชอย่างน้อย 3 – 4 เดือนหลังปลูก จากการสำรวจพบว่า หลังจากปลูกอ้อย 65 วัน ในแปลงที่ไม่สามารถควบคุมวัชพืชเถาเลื้อยได้ มีจำนวนหน่ออ้อยลดลง 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับแปลงที่สามารถควบคุมวัชพืชเถาเลื้อยได้
เมื่อรู้จักกับ “ภัยร้าย” อีกตัวในไร่อ้อยแล้ว สิ่งที่มิตรชาวไร่ต้องทำคือ รับมือและหาวิธีจัดการต้นตอปัญหานี้ด้วยวิธีที่เหมาะสม โอกาสหน้าเราจะนำเทคนิคการกำจัดจุดอ่อนวัชพืชเถาเลื้อยนี้มาฝากแน่นอน
