หน้าแรก

Climate Change หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกิดขึ้นมานานอย่างต่อเนื่อง ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป พฤติกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้การปลูกพืชผักเพื่อเป็นอาหารเต็มไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น และใช้สารเคมีมากขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ดี มนุษย์ก็ไม่หยุดที่จะคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งานตามยุคตามสมัย รวมถึงตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ล่าสุดประเทศญี่ปุ่นได้คิดค้นโดมปลูกพืชผักไร้เสาหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า AIR DOME ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมปลูกผักแนวใหม่ของโลกในนาทีนี้ สำหรับเจ้าของนวัตกรรม คือ LS Farm มี คุณมาซาจิ โกซาไก (Masaji Kosakai) เป็นประธานและผู้แทนผู้อำนวยการ

เทคโนโลยีโดมปลูกพืชผัก-003.jpg

LS Farm ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 2008 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเกษตร นวัตกรรมเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย รวมถึงบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการเกษตร โดยเฉพาะการพัฒนาบุคคลากรให้กับเกษตรกรแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของนาโงย่า (Nagoya) ประเทศญี่ปุ่น

แนวคิดการพัฒนา AIR DOME เพื่อการปลูกพืชผลในระบบโรงเรือน โดยไม่ต้องมีเสา เกิดจาก ผู้คิดค้นต้องการเปลี่ยนระบบการปลูกพืชบนพื้นดินที่เริ่มเป็นเรื่องยากในแง่ของสภาพภูมิอากาศ และเทคโนโลยีการปลูกพืชลงบนพื้นดินไม่อาจได้ผลเหมือนแต่ก่อน เราไม่อาจสามารถผลิตพืชผักผลไม้ได้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรโลก และสิ่งสำคัญที่สุดพืชผักที่เป็นอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ต้องมั่นใจว่าปลอดภัยต่อการใช้สารเคมีป้องกันโรคแมลงศัตรูพืช และการใช้ปุ๋ยเคมีเกินความจำเป็นเพื่อให้สีและรูปร่างตามขนาดที่กำหนด AIR DOME เพื่อการปลูกพืชผล จึงเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ โดย LS Farm ได้คิดประดิษฐ์จนมีความมั่นใจว่าใช้งานได้ดี และเป็นแห่งแรกของญี่ปุ่น

เทคโนโลยีโดมปลูกพืชผัก-004.jpg

คุณสมบัติของโรงเรือนเกษตรแบบโดม หรือ AIR DOME

  • โครงสร้างไร้เสา (นิวแมติก) โดยไม่มีท่อหรือเสาใด ๆ
  • ไม่มีเงาแสง เพราะไร้เสา และมีฟิล์มกระจายแสง
  • การเพาะปลูกในแนวตั้งและหลายชั้นโดยใช้ความสูง
  • อัตราผลตอบแทนการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น จากการเพาะปลูกแบบหลายชั้นได้ปริมาณมากกว่า
  • ศัตรูพืชไม่เข้าสู่โรงเรือน เนื่องจากโครงสร้างที่ปิดอย่างมิดชิด ทำให้การใช้ยาฆ่าแมลงลดลงอย่างมาก
  • โครงสร้างโดมพลาสติกเคลือบสองชั้น ทำให้มีความไวต่ออากาศภายนอกน้อยลงและลดต้นทุนการทำความร้อนในฤดูหนาว
  • สามารถเพาะปลูกได้ทุกฤดูกาล เช่น การเพาะปลูกตามสัญญาที่ต้องการความมั่นคงของผลผลิต การเพาะปลูกเพื่อให้บริการแก่ร้านอาหารท้องถิ่น โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ฯลฯ

ในไม่ช้านี้ หวังว่าจะได้เห็นโดมปลูกพืชไร้เสาแบบญี่ปุ่นเกิดขึ้นที่เมืองไทยบ้าง เพราะนักประดิษฐ์ไทยมีชื่อเสียงเรื่องการคิด การพัฒนา ไม่แพ้ชาติใดในโลก เรื่องนี้ทำให้ตระหนักได้ว่า แม้โลกจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน การปรับตัวของมนุษย์ก็ถูกพัฒนาให้เก่งขึ้นโดยอัตโนมัติ เพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นคือ ความอยู่รอด

ขอบคุณที่มา:

https://www.kasetkaoklai.com/

ข่าวปักหมุด