-บัวลอย ทองดีเขียว- เพราะไร่อ้อยคือชีวิต
สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ คนเก่งเกษตรสมัยใหม่วันนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับมิตรชาวไร่ท่านหนึ่ง ผู้ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวชาวไร่ มีไร่อ้อยทั้งแปลงน้อยแปลงใหญ่เป็นดั่งสนามเด็กเล่น เธอเรียน รู้ เล่น ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของไร่จนเกิดเป็นความผูกพันธ์ เรียกได้ว่า “ไร่อ้อยคือชีวิตของเธอ” ก็ว่าได้ค่ะ
คุณบัวลอย ทองดีเขียว หรือ คุณปลา คือคนเก่งเกษตรสมัยใหม่วัย 35 ปี ของมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม คุณปลาเล่าว่า ตั้งแต่เรียนจบ ม.3 ก็ตั้งใจมาทำไร่อ้อยช่วยครอบครัว ในช่วงแรกเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วย ยังมีไม่มาก ทำให้การทำงานค่อนข้างลำบาก ต้องจ้างทั้งรถไถ ทั้งคนปลูก โดยเริ่มเรียนรู้จากพื้นที่ 16 ไร่ และศึกษาข้อมูลพร้อมขอคำแนะนำจากมิตรผล เริ่มจากมีโอกาสเข้าไปดูงานที่โรงงานน้ำตาลภูเวียง ทำให้รู้จักวิธีปลูกอ้อยเว้นระยะร่องแล้วได้ผลดี จึงคิดว่าต้องลองนำกลับมาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง
“ในช่วงแรก พื้นที่ทำไร่ของเรายังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จนเริ่มมีลูกไร่ซึ่งเป็นกลุ่มในหมู่บ้านเข้ามาเสริมทีม มาช่วยกันพัฒนา พอลูกไร่เขาเห็นว่าอ้อยเราสวย ลำใหญ่ เขาก็นำกลับไปทำที่แปลงของเขาเอง ใครขาดเหลืออะไรก็ช่วยกัน จนวันหนึ่งมีเถ้าแก่มาสนับสนุน 2 คน เขาเห็นว่าปลูกอ้อยดีอย่างที่เราทำเขาก็ช่วยสนับสนุนทุกอย่าง ทั้งให้ไปอบรม ดูงาน แต่เราก็ไม่ได้จะวิ่งตามเขาเสียทั้งหมด เพราะเราก็เริ่มต้นจากศูนย์ค่อย ๆ ทำขึ้นมาเรื่อย ๆ ก้าวทีละเล็กทีละน้อยไป”
เมื่อชีวิตการเป็นมิตรชาวไร่ของคุณปลาเริ่มเจริญรุดหน้าขึ้น เครื่องมือเกษตรสมัยใหม่เป็นที่นิยมสำหรับชาวไร่อ้อย ปี 2562 คุณปลาตัดสินใจซื้อรถตัดอ้อย เพราะพื้นที่แปลงอ้อยขยายมากขึ้น ผลผลิตเยอะขึ้น การใช้แรงงานคนต้นทุนสูงขึ้นทุกวัน จึงตัดสินใจซื้อรถตัดเพื่อแบ่งเบาภาระในไร่อ้อย
นอกจากลงทุนกับเครื่องมือการเกษตร คุณปลายังนำเทคโนโลยีการให้น้ำในแปลงอ้อย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อ้อยของเธองอกงาม และให้ผลผลิตสูงขึ้นกว่าเดิม เข้ามาปรับใช้งานในไร่
“การให้น้ำเรามีหลายวิธี บางแปลงก็เป็นน้ำหยด บางแปลงก็เป็นน้ำราด ซึ่งก็เริ่มเห็นมีหลายไร่ใช้กันอยู่แล้ว ข้อแตกต่างของไร่เรากับที่อื่นคือ เราเริ่มใช้โซลาร์เซลล์ในไร่เพื่อเจาะบ่อบาดาล เพื่อให้มีแหล่งน้ำใช้เอง โครงการนี้มิตรผลพร้อมจะสนับสนุนหากใครต้องการ
จากลูกชาวไร่ที่สัมผัสกับการทำไร่แบบเก่ามาตั้งแต่เล็กจนโต และผันตัวเข้ามาสร้างมิติใหม่ทำไร่อ้อยยั่งยืนแบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ทำให้คุณปลาเห็นความแตกต่างอย่างแจ้งใจเกี่ยวกับการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ว่า
“ทำไร่สมัยใหม่ สามารถแบ่งเบาภาระได้ทุกอย่างนะคะ สมัยก่อนย้อนกลับไป ปี พ.ศ. 2543 คิดจะทำไร่ต้องสิ้นเปลืองเงินเรามากโข ต้องไปจ้างเขามาดายหญ้าเก็บหญ้าสารพัด กิจกรรมในไร่ต้องใช้แรงงานคนทุกอย่าง ต่างจากสมัยนี้ เราใช้รถไถ ใช้เครื่องจักรทำแทนคนได้แทบทุกอย่างเช่นกัน ทำไร่สบายขึ้น ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา แถมทำได้เองในครอบครัวของเรา ไม่ต้องใช้คนเยอะเหมือนเมื่อก่อน”
นอกจากนี้คุณปลายังคงหมั่นศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งจากโรงงานที่เคยไปเรียนรู้งานและตามสื่อต่าง ๆ ที่นำเสนอเกี่ยวกับเทคนิคเกษตรสมัยใหม่แล้วนำข้อมูล ที่เป็นประโยชน์กลับมาปรับใช้กับไร่อ้อยของตนเอง จนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่มิตรชาวไร่ในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการใช้วีแนสปรับปรุงดิน
“วีแนสคือกากน้ำตาลที่ได้จากโรงงาน เรานำมาฉีดที่ไร่ ช่วยป้องกันปลวก ป้องกันแมลงศัตรูอ้อยทั้งหลาย ได้ด้วยนะคะ ทำให้อ้อยสวย ตอสวย ยิ่งถ้าตัดอ้อยสดไว้ใบคลุมดิน ประกอบกันด้วย ยิ่งเห็นผลทันตา”
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและไม่ยอมแพ้ ทำให้ปัจจุบันคุณปลามีที่ดินของตัวเองอยู่ประมาณ 100 กว่าไร่ ที่เช่าประมาณ 400 ไร่ นับรวมของทั้งกลุ่มประมาณ 2,000 ไร่ ซึ่งในปี พ.ศ. 2559 ได้ผลผลิตอ้อย 20,000-30,000 ตัน
“ทำไร่ขึ้นอยู่ที่ว่าปีไหนแล้งหรือไม่แล้ง ต้องว่ากันไปตามฝนด้วย อย่างปีนี้ผลผลิตดีเพราะ เราเตรียมดินดี เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือของเราไว้พร้อม”
นอกจากจะเป็นหัวหอกการทำไร่สมัยใหม่ในหมู่บ้านแล้ว คุณปลายังส่งต่อองค์ความรู้ตามแนวทางมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ที่ได้รับมาให้กับลูกชายทั้งสอง
“เมื่อก่อนตอนทำไร่อ้อยใหม่ ๆ ก็คิดว่าทำแล้วมันไม่ค่อยได้เงิน ไม่ได้อะไรเลย มันดูลำบาก มันท้อใจไปทุกอย่าง ยิ่งถ้ายังทำอ้อยแบบสมัยเก่านะ ยิ่งทำเรายิ่งท้อ รถไถก็ไม่มี เครื่องมือเครื่องไม้ก็ไม่มี ต้องจ้างเขาอย่างเดียว สุดท้ายก็เหลือไม่กี่บาท แต่พอมาตอนนี้เราเห็นผลจากการที่เราไม่ยอมแพ้ เราลุกขึ้นสู้ ลุกขึ้นมาขยายพื้นที่ทำอ้อย ใครมีที่นาให้เช่า เราก็ไปเช่าเขาเอามาทำอ้อย เราขยัน เราตั้งใจ ผลลัพธ์ที่ออกมามันเลยดีเกินคาด พอเรามีลูก ลูกทั้งสองคนเขาได้มาเห็นภาพตรงนี้ พวกเขาก็เลย ตั้งใจจะสานงานต่อ ทุกวันนี้หลังจากเลิกเรียนเขาก็มาช่วยงาน ทำอ้อยเป็นประจำวันเสาร์-วันอาทิตย์ นี่คือสิ่งที่เราทำไว้เป็นแนวทางให้ลูก”
ไร่อ้อยของคุณปลา มีพร้อมทุกอย่างสมกับที่เป็นไร่อ้อยสมัยใหม่ สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือ ผืนดินแห่งนี้จะถูกสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น
“เราทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเป็นชาวไร่มาปลูกอ้อยนั้นดีกว่าอย่างไร ทำอ้อยมีเงินหลั่งไหลเข้ามาหลายทาง รายรับจิปาถะสารพัดอย่าง มีเงินสนับสนุนต่อเนื่อง ไหนจะเงินจากอ้อยสด เงินเพิ่ม เงินอุดหนุนทุกอย่างลองมาทำอ้อยกันดูสิคะ ทำแล้วชีวิตเปลี่ยนแน่นอน ทุกวันนี้ไร่อ้อยคือชีวิต และเรามีชีวิตที่ดีได้ก็เพราะมีมิตรภูเวียงนี่แหละค่ะ ถ้าไม่มีเขาเราก็ไม่มีวันนี้เช่นกัน” และนี่คือ คนเก่งเกษตรสมัยใหม่ของเราในวันนี้ค่ะ.
ที่มา : วารสารมิตรชาวไร่
