หน้าแรก

มิตรชาวไร่หลายคนคงคุ้นเคยกับ เชื้อราเมตาไรเซียม (Metarhizium anisopliae)  ซึ่งเป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกับแมลงศัตรูอ้อย ตัวช่วยกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเชื้อราตัวนี้จะเจริญเติบโตทั่วไปในดิน มีชีวิตอยู่ในดินได้นาน จึงสามารถช่วยควบคุมแมลงศัตรูอ้อยได้ดี แต่เชื้อราเมตาไรเซียมไม่มีอันตรายต่อไส้เดือน สัตว์ต่าง ๆ หรือ คน ทั้งยังเพาะเลี้ยงได้ง่าย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเกษตรกรจึงนิยมนำมาใช้ในรูปแบบการกำจัดแมลงศัตรูพืช

นอกจากเชื้อเราเมตาไรเซียมแล้ว ยังมีเชื้อราจำพวกเดียวกันที่มีคุณสมบัติทำลายแมลงได้อีกชนิดหนึ่งที่มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มอยากแนะนำให้มิตรชาวไร่รู้จัก นั่นคือ “เชื้อราบิวเวอเรีย”

เชื้อราบิวเวอเรีย (Beauveria  bassiana) เป็นจุลินทรีย์ที่จัดเป็นพวก "เชื้อราทำลายแมลง" ตระกูลเดียวกับเมตาไรเซียม สามารถทำลายแมลงได้หลายชนิด ด้วยวิธีการผลิตเอนไซม์ที่เป็นพิษต่อศัตรูพืช เชื้อราบิวเวอเรียเป็นเชื้อราที่อาศัยและกินเศษซากที่ผุพังเป็นอาหาร

การเข้าทำลายแมลงของเชื้อราบิวเวอเรีย

  1. สปอร์เชื้อราตกติดอยู่กับผนังลำตัวแมลง เข้าสู่ตัวแมลงทางผนังลำตัว รูหายใจ บาดแผลบนผนังลำตัว เมื่อมีความชื้นเหมาะสมกับการงอก สปอร์จะแทงทะลุผิวหนังลำตัว เชื้อราจะงอกสู่ช่องว่างลำตัวแมลง เจริญเติบโตสร้างเส้นใยมากมาย และทำลายแมลงในที่สุด
  2. เมื่อแมลงตาย เส้นใยจะแทงทะลุผ่านผนังลำตัวแมลงออกสู่ภายนอก
  3. สปอร์จะแพร่กระจายไปตามลม ฝน หรือติดกับตัวแมลง เชื้อราจึงสามารถขยายพันธุ์ต่อได้ และเมื่อสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะทำลายแมลงศัตรูพืชต่อไป

สำหรับลักษณะอาการของแมลงที่ถูกเชื้อราบิวเวอเรียเข้าทำลาย

  1. แมลงที่ถูกทำลายจะแสดงอาการของการเป็นโรคคือ เบื่ออาหาร กินน้อยลง อ่อนเพลียและไม่เคลื่อนไหว
  2. สีผนังลำตัวแมลงมักจะเปลี่ยนไป ปรากฎจุดสีดำบนบริเวณที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย
  3. พบเส้ยใย และผงสีขาว ของสปอร์ปกคลุมตัวแมลงที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย

วิธีการใช้เชื้อราบิวเวอเรีย

  1. เชื้อราบิวเวอเรีย 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 100 ลิตร ผสมสารจับใบ (กรองเอาเฉพาะน้ำ)
  2. ควรให้น้ำแปลงพืชที่จะควบคุมศัตรูพืชประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนพ่นเชื้อราบิวเวอเรีย
  3. นำเชื้อราไปฉีดพ่นเพื่อควบคุมศัตรูพืชโดยต้องพ่นให้ถูกตัวแมลงและศัตรูพืช หรือบริเวณที่แมลง

ศัตรูพืชอาศัยให้มากที่สุด ช่วงเวลาพ่นควรเป็นช่วงเวลาเย็น เพราะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการงอกและเจริญเติบโตของเชื้อราคือ มีความชื้นสูง และแดดอ่อน

  1. ให้น้ำกับแปลงพืชในวันรุ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความชื้น
  2. สำรวจแปลงพืช ถ้ายังพบศัตรูพืชเป้าหมายให้พ่นเชื้อราบิวเวอเรียซ้ำ

เชื้อราบิวเวอเรียสามารถทำลายแมลงศัตรูพืชที่สำคัญ เช่น แมลงหวี่ขาว หนอนเจาะสมอฝ้าย ไรแดง เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ส้ม เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และหนอนผีเสื้อต่างๆ

ซึ่งข้อดีของการใช้เชื้อราบิวเวอเรียกำจัดศัตรูพืชคือ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค ไม่มีสารพิษตกค้างแต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องความร้อนและความชื้น ที่มีผลต่อการอยู่รอดของเชื้อรา และประสิทธิภาพในการควบคุมศัตรูพืช หากต้องนำมาใช้ มิตรชาวไร่ต้องวางแผนเรื่องการจัดเก็บ และการควบคุมความร้อนความชื้นให้เหมาะสมต่อการอยู่รอดของเชื้อราบิวเวอเรีย เพื่อประสิทธิภาพการกำจัดแมลงศัตรูพืชได้อย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์.

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ

http://www.pmc08.doae.go.th/

https://www.aforchonline.com/

https://www.globalcitizenyear.org/

ข่าวปักหมุด