- เทคโนโลยีสมัยใหม่
- พ., 27 ต.ค. 64
ธุรกิจยุคใหม่ต้องไร้สัมผัส
ในยุคที่โลกต้องเผชิญกับความร้ายแรงของโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 ทั้งชีวิต ความเป็นอยู่และระบบเศรษฐกิจถูกสั่นคลอนจนยากเกินเยียวยา หลายธุรกิจหลายบริการต่างล้มหายตายจากไปอย่างน่าหดหู่ สำหรับคนที่ยังอยู่ต่างควักกลยุทธ์ต่าง ๆ ออกมาเพื่อความอยู่รอด เพราะหากหวังให้โควิด-19 หายไปจากโลกใบนี้คงเป็นไปได้ยาก การเปลี่ยนเพื่ออยู่กับมันให้ได้ต่างหากที่จะทำให้เรารอด
ชีวิตวิถีใหม่คือการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เราได้ออกมาใช้ชีวิตกันได้บ้าง แม้จะเพิ่มขั้นตอนการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดทั้งสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะ และการล้างมือบ่อย ๆ ให้ติดเป็นนิสัย จะยุ่งยากบ้าง แต่หากเราเคยชินกับสิ่งนี้ จะทำให้เราปลอดภัยจากโรคร้ายได้ไม่มากก็น้อย
นอกจากนี้หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้วิถีชีวิตผู้คนบนโลกนี้เปลี่ยนไป คือการทำธุรกิจในโมเดลรูปแบบใหม่ ที่ลดการพบปะผู้คนลง เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นคือธุรกิจแบบ Self-service หรือการบริการตัวเอง ซึ่งในประเทศไทยอาจจะยังเห็นภาพโมเดลธุรกิจแบบนี้ไม่ชัดเจน มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มจึงขอหยิบยกโมเดล Self-service จากประเทศจีนมาฝากกัน
ตัวอย่างธุรกิจให้บริการแบบ Self-service แบบใหม่ที่จีนคิดค้นขึ้นมาเป็นที่แรกของโลก เช่น เครื่องจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบอัตโนมัติไร้สัมผัส ชำระเงินผ่านระบบบนมือถือหน้าตู้ หรือมีการปรับใช้ตู้คอนเทนเนอร์เป็นจุดทำอาหารแจกจ่ายเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์แบบอัตโนมัติ ไร้คนปรุง ที่สามารถปรุงอาหารแบบสดใหม่เสิร์ฟจากเตาร้อน ๆ ได้ด้วยหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนาและโปรแกรมขึ้นมา ให้มีความสามารถในการปรุงอาหารแบบสดใหม่ได้ 36 จาน ภายในเวลา 15 นาที
นอกจากนี้มียังมีการจัดสร้างร้านจำหน่ายของชำแบบค้าปลีกไร้พนักงาน เพื่อลดการสัมผัสแพร่เชื้อจากคนสู่คน เน้นการขายสินค้าการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการให้บริการอาหารแบบเดลิเวอรีไร้สัมผัส แบบไม่ต้องเห็นหน้าตาระหว่างผู้ส่งกับผู้สั่ง โดยลูกค้ามารับสินค้าที่สั่งไว้ผ่านตู้รับสินค้าแบบ Smart locker แบบปลอดเชื้อ/ฆ่าเชื้อได้ ที่เชื่อมต่อระบบเข้ากับมือถือหรือแอปพลิเคชันในการติดตามความเคลื่อนไหวและรับสินค้า ที่วางไว้ให้บริการตามจุดต่าง ๆ
เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผู้ประกอบการในไทยคงทยอยตอบรับโมเดลธุรกิจ Self-service กันมากขึ้น ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดที่บังคับให้ทุกคนต้องอยู่รอด และทำให้ชีวิตลื่นไหลมากขึ้น อีกทั้งการบริการรูปแบบนี้ลดต้นทุนเรื่องพนักงาน รวมถึงการเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ลงได้ และหันมาใช้ดิจิทัลกันมากขึ้น เหมาะกับยุคแห่งการฟื้นฟูจากโรคระบาดได้ดีทีเดียว
ขอบคุณที่มา :
