หน้าแรก

นับตั้งแต่มิตรผลนำองค์ความรู้การทำไร่แบบ “มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม” มาสู่พี่น้องมิตรชาวไร่ทั่วประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากความสำเร็จตามเป้าหมายผลผลิต ก็คือ “ความสุข” จากการได้ลงมือทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปของพี่น้องมิตรชาวไร่ หลายท่านเมื่อทำไร่แบบโมเดิร์นฟาร์ม ทำให้มีเวลาได้อยู่กับความคิดของตัวเอง และลงมือทำในสิ่งใหม่ ๆ เช่น การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ควบคู่กับการทำไร่อ้อย เป็นต้น

โอกาสนี้เราขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับ พ่อปรีชา มิตรชาวไร่จากเขต 8 ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เกษตรกรที่ทำไร่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ควบคู่กับการลงมือทำเกษตรผสมผสานตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ สร้างรายได้อีกทางให้แก่ครอบครัว และสร้างความสุขให้แก่ตนเอง

พ่อปรีชาแบ่งพื้นที่จาก 22 ไร่ของตนเอง ปลูกอ้อย 15 ไร่ ทำเกษตรทฤษฎีใหม่อีก 2 ไร่ ส่วนอีก 5 ไร่ ขุดสระเก็บน้ำไว้ใช้เอง ทำให้มีน้ำใช้ในไร่ตลอดทั้งปี นอกจากนี้พ่อปรีชายังสามารถผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ใช้เองอีกด้วย

พ่อปรีชา-003.jpg

เกษตรทฤษฎีใหม่ 2 ไร่ ทำอะไรบ้าง?

เกษตรทฤษฎีใหม่ของพ่อปรีชา ประกอบด้วย นาข้าว เล้าเป็ดเล้าไก่ บ่อปลา และแปลงผักปลอดสารพิษ ซึ่งทุกอย่างในไร่นำมาขายเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว

ปุ๋ยกลับกองของพ่อปรีชา

พ่อสามารถทำปุ๋ยใช้เองได้ในแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องปุ๋ย และปลอดภัยไร้สารพิษเพราะเป็นสูตรธรรมชาติที่ทำเองได้ เพียงใช้มูลสัตว์ ผสมกับเศษใบไม้เศษหญ้า ประยุกต์ใส่เข้าไป เสร็จแล้วก็พลิกกลับกอง รดน้ำ และนำไปใช้ได้เลย

มิตรผลให้ต้นทุนไปต่อยอด

หลังจากที่มิตรผลเข้ามาสร้างองค์ความรู้ และสนับสนุนต้นทุนปัจจัยการผลิตเบื้องต้นให้แก่เกษตรกร อาทิ ให้พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ แก่เกษตรกรเพื่อไปต่อยอดผลผลิต จนทำให้เกิดเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 43 คนในเขต 8 และยกระดับชาวไร่อีก 12 คนให้เป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้การทำไร่อ้อยแบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มควบคู่กับการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามรอยพ่อ ซึ่งแน่นอนว่า พ่อปรีชาเป็น 1 ใน 12 คนนั่นเอง

พ่อปรีชากับหน้าที่วิทยากรต้นแบบศูนย์เรียนรู้ 

เมื่อได้เป็นต้นแบบศูนย์เรียนรู้ ทำให้พ่อได้รับหน้าที่ วิทยากรจำเป็นขึ้นมา เมื่อมีเพื่อนชาวไร่เข้ามาศึกษาแนวทางการทำไร่ของพ่อ ซึ่งจุดเด่นของพ่อปรีชาอีกเรื่องที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือ “การไว้ตออ้อยได้นาน” พ่อปรีชาเล่าว่า ตนเองเป็นเกษตรกรรายเล็ก จึงมีเวลาได้ดูแลบำรุงตอได้อย่างดีและทั่วถึง ที่สำคัญบำรุงน้ำตลอด ทำให้อ้อยงามและสามารถไว้ตอได้ถึง 10 ปี เลยทีเดียว     

ถึงตรงนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า ความสุขของพ่อปรีชา คือความสุขจากไร่ที่แท้จริง เพราะทุกสิ่งที่พ่อลงมือทำเป็นสิ่งที่พ่อพึงประสงค์ที่จะทำในพื้นที่ 22 ไร่ ของพ่อเอง ทั้งไร่อ้อย และแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ตามรอยพระราชา

พ่อปรีชา-004.jpg

ข่าวปักหมุด