หน้าแรก

ปัจจุบันพี่น้องมิตรชาวไร่จะเห็นว่า เทคนิคการทำปุ๋ยอินทรีย์สูตรต่าง ๆ มีให้เห็น ให้แชร์กันหลายสูตร เพราะเกษตรกรยุค 4.0 ไม่ใช่แค่ตั้งหน้าตั้งตาทำเกษตรอย่างเดียว แต่ยังพัฒนาหาเทคนิคเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่องทั้งยังเปลี่ยนของเสียให้เกิดมูลค่า รวมไปถึงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานปรับใช้ในพื้นที่ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรหลายส่วนก็มีการพัฒนาหาสูตรเพื่อส่งเสริมผลผลิตและลดต้นทุนของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมในการผลิต “ปุ๋ยอินทรีย์จากเศษพืชและมูลสัตว์ ที่ไม่ต้องมีการเติมอากาศและไม่ต้องมีการพลิกกลับกอง” ให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดีที่มีค่าตามมาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตร พ.ศ. 2551 โดยเสร็จภายในเวลาเพียง 60 วัน ด้วยเทคนิคที่มีชื่อเรียกว่า “วิศวกรรมแม่โจ้ 1” ที่ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งไม่ก่อให้เกิดกลิ่น น้ำเสีย และแมลงวัน ส่วนปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้มีลักษณะ เบา นุ่ม และไม่มีกลิ่น มีคุณภาพเหมือนกับที่ผลิตด้วยระบบกองเติมอากาศทุกประการ

ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์วิธี “วิศวกรรมแม่โจ้ 1” มีดังนี้

  1. นําฟางข้าวหรือเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4 ส่วน วางเป็นชั้นบางๆ สูงไม่เกิน 10 เซนติเมตร ฐานกว้าง 2.5 เมตร โดยไม่ต้องเหยียบ โปรยทับด้วย มูลสัตว์ 1 ส่วน แล้วรดน้ำ (ตัวอย่างเช่น วางฟาง 16 เข่ง หนา 10 ซม.โรยทับ ด้วยมูลสัตว์ 4 เข่ง เป็นต้น) ทําเช่นนี้ 15-17 ชั้น รดน้ำแต่ละชั้นให้มีความชื้น ขึ้นกองเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีความสูง 1.50 เมตร กองปุ๋ยจะมีความยาวเท่าไร ก็ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณเศษพืชและมูลสัตว์ความสําคัญของการที่ต้องทําเป็น ชั้นบาง ๆ 15-17 ชั้น ก็เพื่อให้จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในมูลสัตว์ได้ใช้ทั้งธาตุคาร์บอน ที่มีอยู่ในเศษพืชและธาตุไนโตรเจนที่มีในมูลสัตว์ในการเจริญเติบโตและ สร้างเซลล์ ซึ่งจะทําให้การย่อยสลายวัตถุดิบเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
  2. รักษาความชื้นภายในกองปุ๋ยให้มีความเหมาะสมอยู่เสมอ ตลอดเวลา (มีค่าประมาณร้อยละ 60-70) โดยมี 2 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 รดน้ำภายนอกกองปุ๋ยวันละครั้ง โดยไม่ให้มีน้ำไหลนองออกมาจากกองปุ๋ยมากเกินไป

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อครบวันที่ 10 ใช้ไม้แทงกองปุ๋ยให้เป็นรูลึกถึงข้างล่างแล้วกรอกน้ำลงไประยะห่างของรูประมาณ 40 เซนติเมตร ทําขั้นตอนที่สองนี้ 5 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน 10 วัน เมื่อเติมน้ำเสร็จแล้วให้ปิดรู เพื่อไม่ให้สูญเสียความร้อนภายในกองปุ๋ย ขั้นตอนนี้แม้ว่าอยู่ในช่วงของฤดูฝนก็ยังต้องทํา เพราะน้ำฝนไม่สามารถไหลซึมเข้าไปในกองปุ๋ยได้ จากข้อดีที่น้ำฝนไม่สามารถชะล้างเข้าไปในกองปุ๋ยได้ เกษตรกรจึงสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีนี้ใน ฤดูฝนได้ด้วย

ภายในเวลา 5 วันแรก กองปุ๋ยจะมีค่าอุณหภูมิสูงขึ้นมาก บางครั้งสูงถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเรื่องปกติสําหรับกองปุ๋ยที่ทําได้ถูกวิธี ความร้อนสูงนี้ เกิดจากกิจกรรมการย่อยสลายของจุลินทรีย์ (จุลินทรีย์มีมากมายและ หลากหลายในมูลสัตว์อยู่แล้ว) และความร้อนสูงนี้ยังเป็นสภาวะแวดล้อม ที่เหมาะสมกับการทํางานของจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยอีกด้วย (จุลินทรีย์ กลุ่ม Thermophiles และ Mesophiles) หลังจากนั้นอุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลง จนมีค่าอุณหภูมิปกติที่อายุ 60 วัน

ปุ๋ยหมักแม่โจ้-003.jpg

ข้อห้ามในการผลิตปุ๋ย สูตร “วิศวกรรมแม่โจ้”

  1. ห้ามขึ้นเหยียบกองปุ๋ยให้แน่นหรือเอาผ้าคลุมกองปุ๋ย หรือเอาดินปกคลุมด้านบนกองปุ๋ย เพราะจะทําให้อากาศไม่สามารถไหลถ่ายเทได้
  2. ห้ามละเลยการดูแลความชื้นทั้ง 2 ขั้นตอนเพราะถ้ากองปุ๋ยแห้ง เกินไปจะทําให้ระยะเวลาแล้วเสร็จนานและปุ๋ยอินทรีย์มีคุณภาพต่ำ
  3. ห้ามวางเศษพืชเป็นชั้นหนาเกินไปการวางเศษพืชเป็นชั้นหนา เกินไปจะทําให้จุลินทรีย์ที่มีในมูลสัตว์ไม่สามารถเข้าไปย่อยสลายเศษพืชได้
  4. ห้ามทํากองปุ๋ยใต้ต้นไม้เพราะความร้อนของกองปุ๋ยอาจทําให้ต้นไม้ตายได้
  5. ห้ามระบายความร้อนออกจากกองปุ๋ยเพราะความร้อนสูงในกองปุ๋ยจะช่วยให้จุลินทรีย์ทํางานได้ดีมากขึ้น และยังช่วยให้เกิดการไหลเวียนของอากาศผ่านกองปุ๋ยอีกด้วย

มีสูตรเด็ดเคล็ดลับอธิบายให้อย่างละเอียดชัดเจนขนาดนี้ น่าทดลองทำมิใช่น้อยเลยนะคะ หากมิตรชาวไร่ท่านใดสนใจอยากทำปุ๋ยอินทรย์สูตรแม่โจ้ ทำสำเร็จแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาแบ่งปันให้เพื่อนมิตรชาวไร่ท่านอื่นทราบด้วยนะคะ.

https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_127626

ข่าวปักหมุด