หน้าแรก

สวัสดีค่ะพี่น้องมิตรชาวไร่ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก และเป็นวิกฤตโรคระบาดที่รุนแรงและสร้างความสูญเสียจำนวนมาก หลายหน่วยงานรวมถึงประชาชนคนไทยเองต่างร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้สถานการณ์ภายในประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มเชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่ลดลงคือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น รวมถึงการเข้าถึงการรักษาที่เพียงพอเหมาะสมโดยไม่ต้องพึ่งโรงพยาบาลสนามคงเป็นอีกหนึ่งความหวังที่คนทั้งประเทศต้องการ

ด้านการรักษาและบรรเทาอาการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 พระเอกของสถานการณ์ช่วงนี้ต้องยกให้สมุนไพรไทยอย่างฟ้าทะลายโจร ไม่ว่าจะชนิดแคปซูลหรือต้นสด ทุกบ้านต้องมีไว้ให้อุ่นใจ เพราะฟ้าทะลายโจรจัดเป็นศาสตร์การรักษาตามแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีรสขม อยู่ในกลุ่มยาเย็น มีสรรพคุณบรรเทาอาการไข้หวัด แก้ไข้ แก้ไอและเจ็บคอ

พืชล้มลุก ความสูง 30-70 เซนติเมตรนี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น หญ้ากันงู เมฆทะลายฟ้าสะท้าน สามสิบดี ฟ้าสาง หรือน้ำลายพังพอน ฟ้าทะลายโจรมีกิ่งใบเป็นสี่เหลี่ยม ใบมีสีเขียวเข้มผิวมัน ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและซอกใบ กลีบดอกสีขาว โคนกลีบติดกัน ปลายแยก 2 ปาก ปากบนมี 3 กลีบ และมีเส้นสีม่วง-แดงพาดอยู่ มีผลเป็นฝัก เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาล ด้านในมีเมล็ดจำนวนมาก มีรสขมทุกส่วน สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เมื่อต้นมีอายุประมาณ 3-5 เดือน ใช้ได้ทั้งต้น ใบสด และใบแห้ง

สารสำคัญในฟ้าทะลายโจร ได้แก่ แอนโดรการโฟไลด์ (andrographolide) มีฤทธิ์ลดไข้และต้านการอักเสบ และ ดีออกซีแอนโดรการโฟไลด์ (deoxyandrographolide) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของท้องร่วง

ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย อาการไข้ ไอ เจ็บคอ เป็นอิทธิพลของธาตุไฟที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการดังกล่าว เราจึงสามารถใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็น นั่นคือฟ้าทะลายโจร เพื่อใช้ในการรักษาอาการที่ส่งผลมาจากอิทธิพลของไฟที่เพิ่มขึ้นได้ พูดง่าย ๆ คือ ใช้ความเย็น ปรับหรือลดปริมาณความร้อนในร่างกายให้สมดุลนั่นเอง

แต่หากใช้ในปริมาณเกินความจำเป็นก็อาจส่งผลทำให้ ร่างกายมีปริมาณความเย็นเกินไป ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมาได้ เช่น อาการชาต่างร่างกาย แขน-ขาอ่อนแรง ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเสีย หรือผื่นแพ้ตามร่างกาย เป็นต้น

เทคนิคการปลูกและการดูแลรักษาฟ้าทะลายโจร

1. การเตรียมการก่อนปลูก

  • การเตรียมดิน โดยการขุดหรือไถพรวนเพื่อให้ดินร่วนซุย และตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วจึงทำการไถแปร และปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก 
  • การเตรียมพันธุ์ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ใช้เมล็ดจากฝักแก่จัด เมล็ดต้องมีสีน้ำตาลแดง ลักษณะสมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง เนื่องจากเมล็ดมีเปลือกแข็ง ก่อนปลูกแช่เมล็ดในน้ำที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 6-12ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซึมผ่านเมล็ดและเมล็ดสามารถงอกได้

2. การปลูก ฟ้าทะลายโจรสามารถปลูกด้วยเมล็ดหรือต้นกล้า มี 4 วิธี คือ 

  • นำเมล็ดผสมทรายหยาบอัตรา 1:1-2 ส่วน แล้วหว่านในแปลงปลูก
  • โรยเมล็ดเป็นแถวแนวขวาง แต่ละแถวห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วกลบด้วยดินบาง ๆ
  • เพาะต้นกล้าในถาดเพาะ แล้วย้ายกล้ามาปลูกในแปลง เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 30 วัน
  • เพาะต้นกล้าในแปลง การเตรียมแปลงเพาะต้นกล้าใช้วิธีเดียวกับการทำแปลงปลูก โดยรองพื้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 0.5-1 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร

3. การดูแลรักษา

  • การใส่ปุ๋ย แบ่งใส่เป็นระยะ ดังนี้ อายุ 60 วัน ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 125 กรัมต่อต้น หรือ 300 - 400 กรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร และเมื่ออายุ 90 - 110 วัน ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 300 - 500 กรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร โดยวิธีการหว่านให้กระจายสม่ำเสมอกัน หลังหว่านปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำทันทีอย่าให้ปุ๋ยค้างที่ใบ
  • การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและพอเพียง ตั้งแต่ปลูกจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว ในช่วงที่มีแดดจัดหรือหน้าร้อนควรรดน้ำ 2 ครั้งต่อวัน ทั้งเช้าและเย็น หากมีแดดไม่จัดมาก รดน้ำวันละครั้งเฉพาะช่วงเย็นก็ได้ เมื่อต้นอายุประมาณ 2 เดือนสามารถลดการให้น้ำได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
  • การป้องกันและแก้ไข ปัญหาโรคและแมลงศัตรูพืช โรคฟ้าทะลายโจร ได้แก่ โรคโคนเน่าและรากเน่า เกิดจากเชื้อรา หากพบให้ถอนทำลายทันที  โรคแอนเทรคโนส พบตรงกลางหรือปลายใบ หากพบให้ตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง (โรคที่เกิดขึ้นกับฟ้าทะลายโจรนั้น ไม่พบว่าทำความเสียหายขั้นรุนแรง) แมลงศัตรูฟ้าทะลายโจร ไม่พบแมลงชนิดใดที่ทำความเสียหายรุนแรง อาจพบหนอนผีเสื้อได้บ้าง ก็สามารถจับไปทำลายทิ้งได้

4. การปฏิบัติก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว

  • เก็บเกี่ยวในช่วงที่พืชออกดอกตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50% ซึ่งพืชจะมีอายุประมาณ 110 - 150 วัน เป็นช่วงที่มีสารสำคัญสูง โดยพบมากที่ส่วนยอดและใบ 
  • วิธีการเก็บเกี่ยวให้ตัดทั้งต้น ให้เหลือตอสูงประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร เพื่อให้เจริญให้ผลผลิตต่อไป ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 เดือนจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง 
  • การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว นำไปคัดแยกสิ่งปลอมปน เช่น วัชพืชที่ปะปนมาและล้างให้สะอาด ตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 3 - 5 เซนติเมตร ผึ่งให้แห้ง ทำแห้งโดย ตากแดดบนลานตากยกพื้นมีวัสดุรองรับที่สะอาด หรือใช้เครื่องอบแห้งแบบลมร้อน ที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40 - 45 องศาเซลเซียส อบต่อจนแห้งสนิท

ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น การรับประทานฟ้าทะลายโจรที่มากเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ข้อห้ามที่สำคัญคือ หากเป็นผู้ที่เคยมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร ต้องห้ามใช้เด็ดขาด รวมถึงในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรค่ะ นอกจากนี้ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ไม่ควรรับประทานฟ้าทะลายโจรโดยที่ไม่มีอาการใด ๆ หรือมีจุดประสงค์เพื่อกินกันไว้ เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายและอาจส่งผลเสียได้ค่ะ

ขอบคุณที่มา :

กรมส่งเสริมการเกษตร https://www.doae.go.th/

https://med.mahidol.ac.th/

https://medthai.com/

 

 

 

ข่าวปักหมุด