“โจรปล้นบ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว” สำนวนไทยที่มิตรชาวไร่คงเคยได้ยินกันบ่อยครั้งจนคุ้นหู แต่จะมีสักกี่คนที่จะตระหนักว่าเหตุไฟไหม้นั้นอยู่ใกล้ตัว และเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันนั้นขึ้น

เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ร้านขาย ปุ๋ย ยาและอาหารสัตว์ ที่จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมรถดับเพลิง กว่า 10 คัน เพื่อฉีดน้ำสกัดไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เกิดความสูญเสียตึกไปถึง 6 คูหา ยังไม่รวมมูลค่าความเสียหายของสิ่งของต่าง ๆ ที่ถูกไฟเผาไปหมด โดยคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

บ่อยครั้งเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ สาเหตุส่วนใหญ่ที่เรามักจะได้ยิน คือ “เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร” ซึ่งถือได้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟไหม้ โดยเกิดได้จากทั้งความเสื่อมของอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือความไม่ได้มาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้ โดยเฉพาะปลั๊กพ่วงที่เรามักซื้อมาใช้กัน เป็นส่วนสำคัญมาก เพราะต้องมีการใช้งานที่พอเหมาะพอดี ไม่เสียบทิ้งไว้ ไม่ต่อกันหลาย ๆ เส้น หรือแม้แต่การเสียบแน่นในทุกช่อง ก็อาจเป็นสาเหตุสำคัญของการลัดวงจรได้ แต่ภายในบ้านเราก็ยังมีอีกหลายปัจจัยความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ลองมาดูกันว่า 10 ข้อควรรู้เพื่อป้องกันไฟไหม้ มีอะไรกันบ้าง

1. หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า ให้อยู่ในสภาพปลอดภัย หากชำรุดให้รีบซ่อมแซม
2. เลือกใช้ปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
3. ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดหลังเลิกใช้งานแล้วทุกครั้ง
4. หมั่นตรวจสอบเตาและถังก๊าซหุงต้ม ให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ปิดวาล์วที่หัวถังทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
5. หน้าต่างที่ติดเหล็กดัด ต้องมีช่องทางออกฉุกเฉินที่เปิดได้อย่างน้อย 1 บาน ทุกห้อง
6. ควรติดตั้งถังดับเพลิงภายในบ้านในจุดที่เห็นเด่นชัด ปราศจากสิ่งกีดขวาง และคนในบ้านต้องใช้ถังดับเพลิงเป็นทุกคน
7. ควรติดตั้งเครื่องตัดไฟ เพื่อช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่วและอัคคีภัย
8. วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงไวไฟทุกชนิด ต้องเก็บให้ห่างจากความร้อนและเปลวไฟ
9. เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในกิจกรรมเกี่ยวกับไฟ เช่น ดับธูปเทียนให้สนิท
10. ควรติดเบอร์โทร 199 และเบอร์โทรศัพท์สถานีดับเพลิงในพื้นที่ไว้ในที่มองเห็นเด่นชัด

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือ ยังมีข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้ในบ้านมาฝากกันอีกด้วย

1. เมื่อเกิดไฟไหม้ อย่าเปิดประตู-หน้าต่างออก เพราะออกซิเจนจะทำให้ไฟลุกไหม้มากขึ้น หากเส้นทางหนีไฟมีควันไฟปกคลุม ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกหรือใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่อัดอากาศบริสุทธิ์มาครอบศีรษะเพื่อป้องกันการสำลักควัน และให้มอบคลานต่ำไปตามเส้นทางอพยพที่ปลอดภัย
2. ไม่ควรเข้าไปหลบหนีไฟบริเวณที่ที่เป็นจุดอับ เช่น ห้องน้ำ เพราะเป็นที่ที่มีหน้าต่างน้อย อาจสำลักควันไฟหรือถูกไฟคลอกเสียชีวิต

นอกจากการดูแล ตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุไฟไหม้แล้ว ภายนอกบ้านเอง มิตรชาวไร่ก็ต้องมีการตรวจตราและเฝ้าระวังเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ไร่อ้อย ซึ่งในช่วงนี้หน้าแล้ง อากาศแห้ง ๆ แบบนี้ที่ง่ายต่อการเกิดการติดไฟ รวมถึงการจุดไฟเผาไร่ หรือไฟที่ไหม้ลุกลามมาจากพื้นที่การเกษตรอื่น ๆ ก็อาจเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน

การเฝ้าระวังทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้าน รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างไฟไหม้นั้นเป็นสิ่งที่เราควรฝึกและทำให้ชินจนเป็นนิสัย เพราะการที่เราเสียเวลาเพียงเล็กน้อยนั้น แลกไม่ได้เลยกับการเกิดความผิดพลาดเพียงนิดเดียว แต่อาจจะนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมหาศาลได้ ดังนั้นมิตรชาวไร่ทุกท่านอย่าลืมช่วยกันป้องกัน และช่วยกันตรวจสอบเฝ้าระวัง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเราและคนที่เรารัก รวมทั้งทรัพย์สินที่เราหามาได้ด้วยนำพักน้ำแรงของเรากันนะคะ

ขอบคุณที่มา:

https://www.matichon.co.th/region/news_1858696
https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/42705.html

ภาพประกอบจาก:

https://www.isranews.org/isranews-article/75079-aticle-75079.html
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_706142
https://www.gurubaan.com/
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2612686