- มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม
- ศ., 27 มี.ค. 63
สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ รู้ไหมว่า "น้ำ" คือหัวใจสำคัญของการปลูกอ้อย แม้อ้อยจะขึ้นชื่อว่าทนแล้ง แต่หากได้รับน้ำไม่เพียงพอหรือให้น้ำไม่ถูกช่วงเวลา ก็อาจทำให้ต้นแคระแกร็น ความหวานลด และผลผลิตตกต่ำได้
สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ รู้ไหมว่า "น้ำ" คือหัวใจสำคัญของการปลูกอ้อย แม้อ้อยจะขึ้นชื่อว่าทนแล้ง แต่หากได้รับน้ำไม่เพียงพอหรือให้น้ำไม่ถูกช่วงเวลา ก็อาจทำให้ต้นแคระแกร็น ความหวานลด และผลผลิตตกต่ำได้
การให้น้ำอ้อยไม่ใช่การให้น้ำบ่อยหรือให้มากเสมอไป แต่ต้อง ให้อย่างพอดีในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะช่วง 3–5 เดือนแรกหลังปลูก ซึ่งเป็นช่วงที่อ้อยกำลังสร้างราก ลำต้น และใบ
ถ้าขาดน้ำช่วงนี้ อ้อยจะโตช้า แคระแกร็น ใบเหลือง และให้ผลผลิตต่ำ
ขณะเดียวกัน หากให้น้ำมากเกินไปช่วงใกล้เก็บเกี่ยว อ้อยจะดูดน้ำจนความหวานเจือจาง และเสี่ยงโรครากเน่า
มืออาชีพเขาไม่รอให้ต้นอ้อยเหี่ยวก่อนถึงจะให้น้ำ แต่จะ ตรวจวัดความชื้นในดิน อย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งเทคนิคที่ไร่อ้อยสมัยใหม่ใช้กันมากคือการ ผสมปุ๋ยน้ำเข้ากับระบบน้ำหยด หรือที่เรียกว่า Fertigation
น้ำจะพาอาหารไปถึงรากอย่างตรงจุด ช่วยให้อ้อยดูดซึมสารอาหารได้เร็วขึ้น
✅ เหมาะมากกับไร่ที่ใช้ระบบน้ำหยด
✅ ควบคุมปริมาณปุ๋ยได้แม่นยำ
✅ ลดการสูญเสียจากการใส่ปุ๋ยแบบหว่าน
✅ ประหยัดแรงงาน
การให้น้ำอ้อยแบบมืออาชีพ ไม่ใช่แค่เปิดน้ำทิ้งไว้ แต่ต้อง รู้จังหวะ รู้เทคนิค และใช้เครื่องมือให้เป็น
ถ้ามิตรชาวไร่นำ 3 เคล็ดลับนี้ไปปรับใช้จริง ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำตามช่วงเวลา ตรวจความชื้น หรือผสมปุ๋ยกับน้ำ รับรองว่าไร่อ้อยของคุณจะ
✅ ให้ผลผลิตดี
✅ ลำใหญ่หวานฉ่ำ
✅ คุ้มค่าน้ำและแรงที่ลงไปแน่นอนค่ะ!
ที่มา : วารสารมิตรชาวไร่