สวัสดีค่ะ มิตรชาวไร่ทุกท่าน
หากพูดถึงปัจจัยสำคัญในการปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตดี “น้ำ” ถือเป็นหัวใจหลักที่ขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเลือกพันธุ์อ้อยดีแค่ไหน หรือใส่ปุ๋ยมากเพียงใด หากต้นอ้อยไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็อาจทำให้แคระแกร็น โตช้า หรือให้ผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

การให้น้ำกับอ้อยจึงไม่ใช่แค่การให้น้ำแบบทั่วไป แต่ต้อง “ให้ถูกเวลา และในปริมาณที่เหมาะสม” โดยเฉพาะใน 3 ช่วงหลักที่อ้อยต้องการน้ำมากที่สุด ได้แก่:

1. ช่วงแรกหลังปลูก

ต้นอ้อยเริ่มสร้างรากใหม่ การได้รับน้ำในช่วงนี้จะช่วยให้รากหยั่งลึก แตกยอดดี และตั้งตัวได้เร็ว หากขาดน้ำ อ้อยจะหยุดการเจริญเติบโตตั้งแต่ต้นฤดู

2. ช่วงแตกกอ

เป็นช่วงที่ใบแผ่ออกเพื่อสร้างอาหาร หากมีน้ำเพียงพอ อ้อยจะแตกกอได้ดี ลำต้นใหญ่ แข็งแรง ใบเขียวเต็มที่ ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณผลผลิตในอนาคต

3. ช่วงสะสมน้ำตาลก่อนเก็บเกี่ยว

ช่วงสุดท้ายก่อนตัดอ้อย ควรลดการให้น้ำลงใน 1–2 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อให้อ้อยสะสมน้ำตาลได้เต็มที่ หากให้น้ำมากเกินไปในช่วงนี้ อาจได้อ้อยที่อวบน้ำแต่มีความหวานต่ำ

บริหารน้ำอย่างไร ให้คุ้มค่า?

การจัดการน้ำให้ดีไม่ใช่แค่เรื่องของเวลา แต่รวมถึงการเลือก วิธีการให้น้ำที่เหมาะสมกับแปลงของเรา เช่น

• ระบบน้ำหยด: ให้น้ำพร้อมปุ๋ยตรงจุด ประหยัดแรงงาน และลดการสูญเสียน้ำ
• เทคโนโลยี IoT: ควบคุมการให้น้ำผ่านมือถือ ตรวจวัดความชื้น และตั้งเวลาได้แม่นยำ

นอกจากนี้ มิตรชาวไร่ควรเตรียมรับมือกับภัยแล้งล่วงหน้า เช่น

• ขุดบ่อน้ำสำรองไว้ใช้
• ใช้พลังงานแสงอาทิตย์สูบน้ำ ลดต้นทุนระยะยาว
• เก็บกักน้ำฝนตั้งแต่ต้นฤดู

อ้อยทนแล้งได้...แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องการน้ำเลย

แม้อ้อยจะเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี แต่หากต้องการให้ได้อ้อยลำใหญ่ หวานดี และให้ผลผลิตสูง “น้ำ” คือปัจจัยสำคัญที่ต้องใส่ใจอย่างต่อเนื่อง

อย่าลืมว่า...

“ในทุกลำอ้อยที่เติบโตได้ดี ล้วนมีน้ำเป็นเบื้องหลังเสมอ”

มาร่วมกันดูแลน้ำในไร่ให้ดี แล้วผลผลิตที่งอกงาม จะตอบแทนความใส่ใจของเราคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

ที่มาข้อมูล : วารสารมิตรชาวไร่