หน้าแรก

ความสำเร็จในหน้าที่การงานของคนเรา บางครั้งไม่ใช่แค่สิ่งที่เรานำกลับไปให้ครอบครัว ไม่ใช่แค่รายได้หรือผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในแต่ละฤดูเท่านั้น แต่ยังสะท้อนผ่านคุณค่าที่เราสร้างไว้ให้กับคนรอบข้าง ชาวไร่อ้อยหลายคนอาจไม่เคยรู้ตัวว่า อาชีพที่เราทำอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเหนื่อยยากแค่ไหน กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนให้คนอีกหลายสิบชีวิตให้มีงานทำ มีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต ทั้งคนงานขับรถ คนตัดอ้อย คนขนส่ง คนแปรรูป และอีกมากมายที่เกี่ยวข้อง นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในทุกหยาดเหงื่อของชาวไร่ ซึ่งเป็นพลังที่น่าภูมิใจ และคือเหตุผลที่เราต้องลุกขึ้นมาทำต่อไป ด้วยหัวใจที่เชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราทำอยู่ มีคุณค่า มีความหมาย และมีพลังมากกว่าที่เราคิดเสมอ

วันนี้มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มขอจูงมือพี่น้องมิตรชาวไร่ทุกท่านไปทำความรู้จักกับสองพ่อลูกจากมิตรกาฬสินธุ์ ที่ผนึกกำลังสร้างไร่อ้อย ให้เป็นอาชีพให้แก่คนในชุมชนมาอย่างยาวนาน นายประจักร ชื่นตา หรือพ่อประจักร และนายอภิชาติ ชื่นตา หรือคุณโอม ทายาทหนุ่มไฟแรงที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาอาชีพทำไร่อ้อยให้ทันสมัยและยั่งยืน

ย้อนเส้นทางกว่าจะมาเป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อยอย่างเต็มตัว

ปัจจุบันพ่อประจักรอายุ 56 ปี เริ่มทำไร่อ้อยเมื่อปี พ.ศ.2538 ก่อนจะมาทำอ้อย พ่อประจักรทำอาชีพปลูกมันสำปะหลัง จากนั้นได้ลงทุนซื้อรถบรรทุกเพื่อมารับจ้างบรรทุกไม้ยูคาลิปตัส และมีโอกาสได้รับจ้างขนอ้อยให้ชาวไร่แถวนั้น พ่อประจักรกล่าวว่า “ช่วงที่รับจ้างขนอ้อยคิดเสมอว่า จะทำยังไงเราถึงจะมีงานขนอ้อยตลอด รถมีงานวิ่งไม่ต้องจอดนิ่งอยู่เฉย ๆ  เลยคิดว่าต้องปลูกอ้อยเอง จะได้ใช้รถบรรทุกของเราได้วิ่งงาน” ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นอาชีพชาวไร่อ้อยของครอบครัวชื่นตา โดยเริ่มจากการเช่าพื้นที่ปลูกประมาณ 30 ไร่

ในส่วนของคุณโอม อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นทายาทและกำลังสำคัญของพ่อประจักร ได้เริ่มคลุกคลีช่วยงานในไร่อ้อยตั้งแต่เด็ก ด้วยนิสัยเด็กผู้ชายที่ชอบรถ คุณโอมมักจะตามพ่อขับรถบรรทุกไปทำงานเสมอ จากความคุ้นชิน เป็นความชอบ คุณโอมจึงตัดสินใจเข้ามาช่วยงานเต็มตัวตั้งแต่อายุ 17 ปี

“แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมตัดสินใจมาทำไร่อ้อยกับครอบครัว เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มั่นคง เป็นหลักแหล่ง สามารถสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นได้ เห็นพ่อทำแล้วเคยมองว่า ทั้งร้อนทั้งฝน ดูลำบากมาก ทำไมพ่อไม่ท้อบ้าง แต่พอมาอยู่จุดนี้เรารู้ว่าทำไร่อ้อยให้อะไรหลายอย่าง ได้ทั้งอนาคตให้ลูกหลาน สร้างอาชีพให้คนงาน ซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชนของเรา ทำไร่อ้อย ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ก็มีงานให้คนงานได้ทำ สร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้คนในชุมชน” คุณโอมกล่าว

จากอดีตสู่ปัจจุบัน จากวิถีปลูกอ้อยแบบดั้งเดิม สู่ทำไร่อ้อยแบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม

จากจุดเริ่มต้น 30 ไร่ สู่พื้นที่ปลูกอ้อย 650 ไร่ในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะมาถึงวันนี้

“เมื่อก่อนพ่อปลูกอ้อยแบบไถชักร่อง ร่องเดียว ทั้งตำบลมีรถไถอยู่เจ้าเดียว ต้องรอคิวกันนานกว่าจะถึงคิวเราได้ไถ โอ้ย! ลำบากมาก แต่ตอนนี้สบายเลย ได้รู้จักกับโรงงานมิตรผล รู้จักรเทคโนโลยี นำเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้งานในไร่อ้อย จะเตรียมดิน ยกร่อง ใส่ปุ๋ย ตัดอ้อย ใช้รถทั้งหมด ตอนนี้พ่อปลูกอ้อยระยะร่อง 1.85 เมตร ร้อยเปอร์เซ็นต์ และตัดอ้อยสดทุกแปลง”

คุณโอมเล่าเสริมว่า ในไร่มีเครื่องมือทางการเกษตรหลากหลาย ได้แก่ รถตัดอ้อย John Deere 1 คัน รถบรรทุกอ้อย 10 คัน รถแทรกเตอร์ 5 คัน เครื่องอัดใบอ้อย 6 เครื่อง เน้นการใช้เครื่องจักรในการบริหารจัดการดูแล และบำรุงรักษาไร่อ้อยเป็นหลัก เช่น การใช้รถแทรกเตอร์ขนาด 24-27 เข้าไปบำรุงรักษาไร่อ้อย รวมถึงการปลูกพืชตระกูลถั่ว เพื่อบำรุงรักษาดิน เป็นต้น

“จากที่พ่อเริ่มไว้คือ 30 ไร่ ปัจจุบันเราสามารถปลูกอ้อยด้วยสัญญาตันอ้อยปี 65/66 จำนวน 7,350 ตัน ประสิทธิภาพรถตัดปี 66/67 เป้าหมาย 8,000 ตัน ผลผลิตปี 66/67อ้อยปลูกเฉลี่ย 16 ตัน/ไร่ อ้อยตอเฉลี่ย 12 ตัน/ไร่ C.C.S.เฉลี่ย 14.31 พื้นที่ปลูกอ้อยรวม 650 ไร่ ตัดอ้อยสด 100% ปลูกอ้อยระยะร่อง 1.85 เมตร 100% มีบ่อบาดาล และโซล่าเซลล์ 2 ชุด เครื่องไม้เครื่องมือมีพร้อม ทั้งหมดนี่ คือ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นครับ”

ปลูกอ้อยอย่างไรให้ได้ผลผลิตตามเป้าหมาย

เรื่องของเป้าหมาย พ่อประจักรกล่าวว่า บางปีก็ได้ตามเป้า บางปีก็พลาดเป้าบ้าง แต่เราไม่นำเรื่องนี้มาคิดให้ปวดหัว สิ่งที่ต้องทำคือ วางแผนใหม่ให้รอบคอบ เช่น การเลือกพันธุ์อ้อย ให้เลือกพันธุ์ที่เหมาะกับดิน ปลูกแล้วได้ผลผลิตดี ลำใหญ่ ซึ่งที่ไร่ชื่นตาเลือกปลูกอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3

“สำหรับพ่อ ให้ความสำคัญเรื่องวีแนส เพราะเคยทดลองแล้วว่า อ้อยที่ได้วีแนสจะได้ผลผลิตดีมาก อ้อยเจริญเติบโตงอกงามดี น้ำหนักดี”

คุณโอมกล่าวว่า เทคนิคสำคัญสำหรับไร่เราคือ การกำจัดวัชพืชให้ทันเวลา ใส่ปุ๋ยให้ตรงตามเวลา ตามอายุอ้อย และใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ตามหลัก 3 ใช่นั่นเอง เพราะเมื่อไรก็ตาม ถ้าเราทำกิจกรรมในไร่ตามเวลาและปริมาณที่เหมาะสม อ้อยก็จะเจริญเติบโตให้ผลผลิตตามเป้า

“นอกจากนี้เรื่องน้ำก็สำคัญมากสำหรับอ้อย ในไร่เราจะขุดบ่อบาดาลเพื่อบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย โดยใช้โซล่าร์เซลล์มาทำระบบน้ำหยด น้ำถือว่าเป็นหัวใจสำคัญเพราะเมื่ออ้อยได้น้ำตามที่อ้อยต้องการ ก็สามารถไว้ตอได้ถึง 3-4 ตอ ซึ่งสำหรับดินทรายแบบเราไว้ได้ 4 ต่อ ถือว่าดีมากแล้วครับ”

ตัดอ้อยสด ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งคุณภาพ

ไร่อ้อยของครอบครัวชื่นตา ตัดอ้อยสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งพ่อประจักรเล่าว่า ข้อดีของการตัดอ้อยสดนั้น ได้ทั้งเงินค่าอ้อยสด ได้อ้อยคุณภาพดี น้ำหนักและค่าความหวานตามเกณฑ์ ที่สำคัญขายใบอ้อยได้เงินเป็นรายได้อีกทาง

“เรามีทั้งรถตัด รถอัดใบอ้อย การตัดอ้อยสด จึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เมื่อก่อนใช้คนงานตัดอ้อยไฟไหม้อย่างเดียว ตอนนี้เราเปลี่ยนมาทำไร่อ้อยแบบโมเดิร์นฟาร์ม ทำตามนโยบายรัฐบาล ไม่ตัดอ้อยไฟไหม้ ให้คนงานขับรถตัดแทน ได้ทั้งอ้อยคุณภาพดี ได้เงินขายใบอ้อยอัดก้อนด้วย” พ่อประจักรกล่าว

ไม่ใช่แค่ปลูกอ้อย แต่คือการสร้างชีวิต

การทำไร่อ้อยของพ่อประจักร ไม่ใช่เพียงการทำไร่อ้อยของครอบครัวหนึ่งครอบครัว แต่คือการทำไร่อ้อยให้อีกหลายครอบครัวได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“ผมทำหลายอย่างมากเลยนะ ทั้งปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และข้าว ผมทำทุกอย่างเพราะมีคนทำงานกับผมเยอะ ที่ปลูกอ้อยก็มีคนขับรถหลายสิบคน มีคนทำงานในไร่อ้อยในส่วนอื่นอีกมากมาย อาชีพไร่อ้อย ไม่ใช่แค่สร้างครอบครัวเรา แต่ยังสร้างอาชีพให้คนอื่นด้วย คนงานที่มาทำงานกับเรา มีอยู่มีกินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง สร้างความมั่นคงให้อนาคตทุกคน”

พ่อประจักรวางแผนสำหรับการปลูกอ้อยว่า อยากจะมีรถตัดเพิ่มอีกสักคัน เพื่อนำมาบริหารงานตัดอ้อยให้คล่องตัวมากกว่านี้ เพราะนอกจากจะตัดอ้อยตนเองแล้ว ยังตัดอ้อยให้กับลูกไร่รายอื่น ๆ อีกด้วย

พ่อประจักรและทายาทกล่าวว่า “ทำงาน ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็มีทั้งยากกับง่าย ไม่มีอะไรง่ายไปทั้งหมด หรือยากไปซะทุกอย่าง ทุกอาชีพล้วนมียากมีง่ายปะปนกันไป แต่เราไม่นำความยากเหล่านั้นมาเป็นอุปสรรค เรามองว่ามันคืองาน คือเงิน คืออนาคตของครอบครัวเรา และอาชีพของคนงาน เพราะฉะนั้นให้ยิ้มรับปัญหา อดทนและใส่ใจในงานที่ทำ แล้วผลลัพธ์จะออกมาดีเอง”

และนี่คือ ครอบครัวชื่นตา ที่มองว่าอาชีพชาวไร่อ้อย เป็นมากกว่าการปลูกพืช แต่เป็นการสร้างอนาคตให้ผู้คนรอบข้างให้มั่นคงยั่งยืนไปด้วยกัน

ข่าวปักหมุด