- หลากสไตล์มิตรชาวไร่
- อา., 9 ก.พ. 63
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้หลายหน่วยงานต่างเร่งพัฒนานวัตกรรมที่จะมาช่วยยับยั้งหรือช่วยงานมนุษย์ในสภาะสุ่มเสี่ยงจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ชนิดนี้กันอย่างเร่งด่วน
โดยล่าสุด บริษัทเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาหุ่นยนต์ชื่อ GermFalcon ที่สามารถฉายแสงอัลตราไวโอเลต - ซี (UV-C) ฆ่าเชื้อโรคในห้องโดยสารบนเครื่องบินได้ถึง 99% ภายในเวลาประมาณ 3 นาที ซึ่งผู้ผลิตมั่นใจว่าไร้สารเคมี ปลอดภัยต่อผู้โดยสารแน่นอน และที่สำคัญสามารถลดการแพร่เชื้อโรคบนเครื่องบินซึ่งเป็นสาเหตุการระบาดอย่างหนึ่งของโรค COVID-19 ซึ่งระบาดอย่างหนักในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ครองแชมป์ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก
ซึ่งผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งในสหรัฐฯได้รับเชื้อจากการโดยสารบนเครื่องบิน ทำให้บริษัทเอกชนแห่งนี้พยายามนำเสนอเทคโนโลยีหุ่นยนต์ GermFalcon ที่สามารถฉายแสงอัลตราไวโอเลต - ซี (UV-C) ฆ่าเชื้อโรคซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาระยะหนึ่งแล้วให้กับสนามบิน 3 แห่งในสหรัฐอเมริกา
สำหรับหุ่นยนต์ GermFalcon นั้น มีลักษณะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมแนวตั้ง มีขนาดกระทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ห้องโดยสารบนเครื่องบินติดตั้งแขนหุ่นยนต์ที่สามารถพับเก็บได้พร้อมหลอดไฟฟ้าสร้างแสงอัลตราไวโอเลต - ซี (UV-C) ที่มีกำลังสูงเพื่อฆ่าเชื้อโรค การเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ต้องใช้มนุษย์ช่วยในการเคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่ง โดยมนุษย์ผู้ควบคุมจะถูกหุ้มด้วยกล่องแผ่นฟิล์มทึบแสงเพื่อลดอันตรายจากแสงอัลตราไวโอเลต - ซี (UV-C)
สำหรับวิธีการเดิมที่ใช้ทำความสะอาดห้องโดยสารบนเครื่องบิน มักใช้สารเคมีที่มีส่วนผสมของสารต้านจุลชีพ นอกจากทำลายเชื้อโรคแล้ว สารตัวนี้ยังทำลายสภาพพื้นผิวของที่นั่งบนเครื่องบินรวมไปถึงต้องควบคุมเวลาและปัจจัยเรื่องอุณหภูมิและความชื้นในอากาศซึ่งมีความยุ่งยากในการทำงาน ในขณะที่หุ่นยนต์ GermFalcon สามารถทำงานได้รวดเร็วภายในเวลา 1 นาทีสามารถฆ่าเชื้อโรคในห้องโดยสารบนเครื่องบินได้ประมาณ 54 ที่นั่งหรือภายในเวลา 3 นาที หุ่นยนต์สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกที่นั่งบนเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์รุ่น B737 และ A320 รวมพื้นที่ห้องน้ำบนเครื่องบิน
ปัจจุบันการนำหุ่นยนต์มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตราไวโอเลต - ซี (UV-C) กำลังเป็นวิธีการที่ถูกนำไปใช้งานในประเทศต่าง ๆ เพื่อลดการระบาดของโรค COVID-19 โดยใช้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและบริษัทเอกชน เพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แม้ช่วงนี้หลายประเทศขอความร่วมมือประชาชนงดการเดินทาง แต่เมื่อใดก็ตามที่เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติ การระมัดระวังป้องกันการระบาดของเชื้อโรค จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรลดหย่อน ควรพึงสร้างพฤติกรรมป้องกันตนเองให้เกิดเป็นนิสัย เพื่อให้มนุษย์โลกสามารถเอาชนะและก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้ด้วยสันติสุข
ขอบคุณที่มา:
https://www.facebook.com/ThaiPBSSciAndTech/posts/3706808746056319