หน้าแรก

สำหรับมิตรชาวไร่หลายท่านที่มีเวลาว่างหลังจากปลูกอ้อย ยังสามารถต่อยอดด้วยอาชีพเสริมหลากหลายรูปแบบ เช่น การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มรายได้และใช้ทรัพยากรในไร่อย่างคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงสัตว์ควบคู่กับการทำไร่อ้อยจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องของ “โรคติดต่อในสัตว์” ที่อาจแพร่ระบาดได้รวดเร็ว หากขาดการดูแลที่เหมาะสม

บทความนี้จะพามิตรชาวไร่ไปเรียนรู้วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ปลอดโรค และปลอดภัยจากโรคติดต่อ ที่อาจส่งผลกระทบต่อทั้งตัวสัตว์ ผู้เลี้ยง และรายได้จากปศุสัตว์

โรคติดต่อในสัตว์ ปัญหาใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้

โรคติดต่อในสัตว์เลี้ยงสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หรือฤดูเปลี่ยนผ่าน ที่สภาพแวดล้อมมีความชื้นสูง และอุณหภูมิเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น

  • โรคปากและเท้าเปื่อย (พบมากในวัว ควาย) มีอาการน้ำลายไหล เท้าเปื่อย เจ็บ ไม่กินอาหาร
  • โรคคอบวม (แอนแทรกซ์) พบในวัว ควาย ม้า อาการเฉียบพลัน อาจทำให้ตายอย่างรวดเร็ว
  • โรคอหิวาต์ในหมู และไข้หวัดนก โรคไวรัสที่ระบาดเร็ว หากไม่ควบคุม อาจลุกลามทั่วฟาร์ม
  • โรคพยาธิภายในและภายนอก ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสัตว์ ทำให้น้ำหนักลด อ่อนแรง

นอกจากนี้ โรคบางชนิด เช่น แอนแทรกซ์ หรือเลปโตสไปโรซิส (โรคฉี่หนู) ยังสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ดังนั้น การป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงให้ปลอดโรคในไร่อ้อย

  1. จัดสถานที่เลี้ยงสัตว์ให้แยกจากพื้นที่ปลูกอ้อย
    แม้จะใช้พื้นที่เดียวกันในการทำไร่อ้อยและเลี้ยงสัตว์ ควรแบ่งโซนอย่างชัดเจน เช่น แปลงอ้อยอยู่ด้านหนึ่ง โรงเรือนสัตว์อยู่ด้านหนึ่ง พร้อมกั้นรั้วหรือคอกให้สัตว์อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่ให้เดินเพ่นพ่านในแปลงอ้อยซึ่งอาจสัมผัสสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อน
  2. รักษาความสะอาดโรงเรือนและแหล่งน้ำ
  • ทำความสะอาดคอกสัตว์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
  • เก็บมูลสัตว์ไว้ในที่เหมาะสม เพื่อใช้ทำปุ๋ยหมักในภายหลัง
  • แยกแหล่งน้ำดื่มสัตว์กับแหล่งน้ำใช้ในไร่อ้อย
  • ตรวจสอบคุณภาพน้ำ หลีกเลี่ยงน้ำขังหรือน้ำสกปรกที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค
  1. ฉีดวัคซีนให้สัตว์เป็นประจำ
    ปรึกษาสัตวแพทย์ในพื้นที่เพื่อวางแผนฉีดวัคซีนที่เหมาะสม เช่น วัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อย แอนแทรกซ์ พิษสุนัขบ้า เป็นต้น การฉีดวัคซีนสม่ำเสมอช่วยลดโอกาสติดโรคได้อย่างมาก
  2. แยกสัตว์ป่วยออกจากฝูงทันที
    หากพบสัตว์มีอาการผิดปกติ เช่น ซึม ไม่กินอาหาร มีไข้ น้ำลายไหล หรือขาเดินผิดปกติ ให้รีบแยกออกจากฝูง และแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ตรวจสอบ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
  3. ควบคุมผู้เข้าออกในโรงเรือนสัตว์
    ผู้ที่เข้าในคอกสัตว์ควรล้างมือ ล้างเท้า หรือเปลี่ยนรองเท้าและเสื้อคลุม ก่อนเข้า–ออก เพื่อลดการนำเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่ฟาร์ม โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคในพื้นที่อื่น
  4. ใช้ปุ๋ยคอกอย่างปลอดภัยในแปลงอ้อย
    ถ้านำมูลสัตว์ไปใช้เป็นปุ๋ย ควรหมักอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและพยาธิในมูลสัตว์ ปุ๋ยคอกหมักช่วยบำรุงดินและปลอดภัยต่อสุขภาพต้นอ้อย

ทำไร่อ้อยควบคู่ปศุสัตว์อย่างมั่นใจ เพียงแค่ใส่ใจดูแลอย่างถูกวิธี

การทำไร่อ้อยร่วมกับการเลี้ยงสัตว์ เป็นอาชีพเสริมที่ทั้งดีและยั่งยืน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และใช้ทรัพยากรในไร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แค่ดูแลสุขภาพสัตว์และป้องกันโรคอย่างเหมาะสม สุขภาพสัตว์ที่ดีจะนำไปสู่ผลผลิตที่มีคุณภาพ รายได้ที่มั่นคงอีกด้วย

ขอบคุณที่มา 

https://pvlo-ray.dld.go.th/

https://www.prd.go.th/

ข่าวปักหมุด