สภาพอากาศทั่วโลกในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า โลกกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติอีกต่อไปแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิที่สูงขึ้น ภาวะโลกร้อนที่จับต้องได้จริง หรือพื้นที่สีเขียวที่ค่อย ๆ หายไปอย่างน่าใจหาย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรที่ต้องเจอกับภัยแล้ง หรือประชาชนทั่วไปที่ต้องเผชิญกับฝุ่น ควัน และมลพิษ

เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ สิ่งที่น่าถามก็คือ…แล้วเราในฐานะประชากรคนหนึ่งของโลกใบนี้ จะมีส่วนร่วมทำให้โลกกลับมาสู่ภาวะปกติได้มากน้อยแค่ไหน?

บางครั้งเวลาเราพูดถึงการ “ช่วยโลก” หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เกินตัว ต้องใช้เงินเยอะ ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตครั้งใหญ่ แต่ความจริงแล้ว เราสามารถเริ่มได้จากเรื่องใกล้ตัวและง่ายที่สุดนี่แหละค่ะ

ตัวอย่างที่ชัดเจนในวงการเกษตรก็คือ “การตัดอ้อยสด ไม่เผาใบอ้อย” เพราะการเผาอ้อยไม่เพียงแต่สร้างควันและฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพคน แต่ยังทำให้หน้าดินเสื่อมสภาพ สูญเสียธาตุอาหาร และกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว ในขณะที่การตัดอ้อยสดจะช่วยรักษาความสมบูรณ์ของดิน เก็บใบอ้อยไว้คลุมแปลงเพื่อรักษาความชื้น และยังช่วยเพิ่มผลผลิตในระยะยาวอีกด้วย

นอกจากนี้ เรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามอย่าง “งดเผาขยะในที่โล่งแจ้ง” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศได้จริง ๆ หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้เพิ่มในที่ดินของเราเอง ก็มีส่วนช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่โลกเราต้องการมาก ๆ ในเวลานี้ค่ะ

บางคนอาจสงสัยว่า การตัดอ้อยสดของเราเพียงคนเดียว หรือการปลูกต้นไม้เพิ่มสักต้นสองต้น มันจะมีผลต่อโลกได้จริงหรือ? มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มอยากบอกว่า “ได้จริงค่ะ” เพราะถ้าคนหนึ่งทำอาจดูเล็กน้อย แต่ถ้าหลายคนทำพร้อมกัน ผลลัพธ์จะยิ่งใหญ่กว่าที่คิด

ลองนึกภาพดูสิคะ ถ้าเกษตรกรทุกคนหันมาตัดอ้อยสดแทนการเผา จะลดปริมาณฝุ่นควันมหาศาลที่เกิดขึ้นในแต่ละปี และถ้าประชาชนทุกบ้านช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่ม แม้เพียงบ้านละ 1–2 ต้น เมืองไทยเราก็จะมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้นทันตาเห็น แบบนี้จะไม่ช่วยโลกได้ยังไงจริงไหมคะ?

สิ่งที่สำคัญคือ การดูแลโลกไม่ใช่แค่การเสียสละเพื่อตัวเลขสถิติสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่คือการลงทุนเพื่อตัวเราเองและคนรุ่นต่อไปค่ะ เพราะเมื่ออากาศสะอาดขึ้น สุขภาพของเราก็ดีขึ้น เมื่อดินดีและอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตทางการเกษตรก็มีคุณภาพสูงขึ้น รายได้ของเราก็มากขึ้นเช่นกัน

พูดง่าย ๆ ก็คือ การทำเพื่อโลกในวันนี้ ไม่ได้มีประโยชน์แค่โลก แต่มีประโยชน์กับเราด้วยในทุก ๆ ด้าน ทั้งสุขภาพ ความเป็นอยู่ และเศรษฐกิจของครอบครัว

ที่มิตรผล เราเชื่อว่าแนวทางเกษตรสมัยใหม่คือการทำเกษตรที่ยั่งยืน ทั้งคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราจึงอยากชวนเพื่อนชาวไร่มาเริ่มต้นลงมือทำไปด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเลิกเผาอ้อย หันมาตัดอ้อยสด การใช้เครื่องจักรที่ช่วยลดการสูญเสียผลผลิต หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้เพิ่มในไร่ ทุกอย่างล้วนเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่จะรวมกันเป็นก้าวใหญ่ของสังคมไทยและของโลกใบนี้

ภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่เราไม่จำเป็นต้องรอการแก้ปัญหาจากใคร เราเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ด้วยสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำได้จริงในชีวิตประจำวัน และในไร่อ้อยของเราเอง

เพราะสุดท้ายแล้ว โลกก็เหมือนบ้านหลังเดียวที่เราทุกคนอาศัยอยู่ การดูแลโลกจึงไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ถ้าเราเริ่มต้นวันนี้ โลกก็มีโอกาสสดใสขึ้นในวันหน้าแน่นอนค่ะ

ที่มา : วารสารมิตรชาวไร่