หน้าแรก

สวัสดีค่ะพี่น้องมิตรชาวไร่ ช่วงนี้ประเทศไทยเรานี่ฮอตจริง ๆ นะคะ ทั้งอุณหภูมิที่ร้อนแสนร้อนจนทะลุ 40-41 องศาฯ ในหลายพื้นที่ เสริมด้วยพายุฤดูร้อนที่เข้ามาทั้งต้นเดือนและท้ายเดือนของมีนาคม หลายคนเริ่มอุทานแล้วว่า นี่แค่มีนานะ เมษา-พฤษภาจะร้อนขนาดไหน!

ไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน แต่ภารกิจของชาวไร่ก็ยังคงอยู่ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการทำงานกลางแจ้ง อันที่จริงแล้วหากเลี่ยงได้ ก็อยากให้มิตรชาวไร่เลี่ยงทำงานกลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัด เวลาประมาณ 10.00-14.00 น. ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เลือดชาวไร่อย่างเรา อยู่ใต้ฟ้าจะให้กลัวแดดกลัวฝนก็กระไรอยู่ จริงไหมคะ?

แต่แดดทุกวันนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ภาวะโลกร้อนที่เกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้อุณหภูมิที่สูงเกินไปเป็นอันตรายต่อผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง ซึ่งปัจจุบันมีความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากภาวะร้อนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก

โรคฮีทสโตรก หรือลมแดด พบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อนโดยเฉพาะคนที่ทำงานกลางแจ้ง เป็นโรคที่ระดับอุณหภูมิสูงเกินกว่าปกติ ทำให้ร่างกายขาดน้ำมากเกินไป และทำให้เกิดอาการช็อกได้ ซึ่งหากมิตรชาวไร่เริ่มมีอาการกระหายน้ำ สูญเสียเหงื่อมาก เวียนศีรษะ หน้ามืด ให้สันนิษฐานได้ว่า นี่คืออาการเบื้องต้นของโรคฮีทสโตรกนั่นเอง

นอกจากฮีทสโตรกแล้ว อาการอื่น ๆ ที่พบได้หากต้องทำงานกลางแจ้งได้แก่ โรคตะคริวแดด ที่เกิดจากภาวะขาดน้ำ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง โรคผดแดด ที่เกิดจากการอักเสบของท่อเหงื่อ ทำให้เกิดตุ่มแดงที่ผิวหนัง และโรคผิวหนังไหม้เกรียม เนื่องจากทำงานกลางแจ้งโดยไม่ได้ป้องกันผิว

เมื่อเราเลือกที่จะไม่ทำงานกลางแจ้งไม่ได้ เราควรมีวิธีดูแลตัวเองเมื่อต้องทำงานกลางแจ้ง ซึ่งนอกจากการเตรียมร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ก่อนออกไปทำงานควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบาและสามารถระบายความร้อนได้ดี ควรทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ (SPF) ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ค่า PA +++ ควรหลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และยาเสพติดทุกชนิด เพราะฤทธิ์จากยาหรือสารเสพติดเหล่านี้จะไปกระตุ้นการเกิดโรคดังกล่าวข้างต้นได้

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

https://www.thaihealth.or.th/

https://www.sanook.com/

https://www.japin.co.th/

https://bestreview.asia/

 

ข่าวปักหมุด