เชื่อว่ามิตรชาวไร่คงคุ้นเคยกับคำว่า “ผักสวนครัวรั้วกินได้” กันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสังคมเมือง หมู่บ้านจัดสรร หรือบ้านเรือนตามชุมชนโดยทั่วไป มักนิยมปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองที่บ้าน เพราะผักคู่ครัวไทยส่วนใหญ่ปลูกง่าย โตไว นำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู ยิ่งบ้านไหนที่มีพื้นที่สามารถปลูกเพื่อการค้า เป็นรายได้อีกทางของครอบครัว

ดังนั้นหากใครพอมีพื้นที่ โดยเฉพาะหน้าบ้าน ท้ายครัว แนวรั้ว แนวเขต มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มอยากชวนมาปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้กันเยอะ ๆ นะคะ ซึ่งผักที่นิยมปลูกกันในบ้านเรามีดังนี้ค่ะ 

- กะเพรา ผักสวนครัวยอดฮิตที่คนนิยมปลูกริมรั้ว เพราะปลูกง่าย ขึ้นง่าย ปลูกได้ในดินเกือบทุกประเภท เป็นไม้ต้นเตี้ย มีกลิ่นหอม สามารถปลูกได้ทั้ง กะเพราขาว และ กะเพราแดง มีสรรพคุณมากมายตั้งแต่ ราก ใบ เมล็ด โดยเฉพาะใบกะเพรา เมนูคลาสสิคคู่ครัวไทย

- พริกขี้หนู การปลูกพริกขี้หนูในลักษณะผักสวนครัวนั้น นิยมหว่านเมล็ดลงในแปลงปลูก ไม่เหมือนกับการปลูกเชิงการค้าที่ต้องเพาะกล้าก่อน แล้วจึงย้ายลงแปลงปลูก เทคนิคการดูแลพริกที่ควรจำเล็กน้อยคือ พริกเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก ถ้ามีความชื้นสูงเกินไป ควรพรวนดินให้น้ำระเหยออกจากดิน ส่วนในกรณีที่ดินแห้งไป และไม่อาจให้น้ำได้อย่างสม่ำเสมอ ควรใช้วัสดุคลุมดินเพื่อช่วยรักษาความชื้นในดิน

- คะน้า การปลูกคะน้าไม่ต้องขุดลึก เนื่องจากระบบรากของคะน้าไม่ลึกมาก ขุดพลิกดินตากแดดไว้ 7-10 วัน แล้วย่อยพรวนเป็นก้อนเล็ก ๆ การปลูกคะน้าใช้วิธีหว่านเมล็ดลงในแปลงได้เลย โดยวิธีการหว่านเมล็ดแบ่งออกเป็นสองวิธีคือ การหว่านเมล็ดให้กระจายทั่วทั้งแปลง และวิธีโรยเมล็ดแบบเรียงแถว ซึ่งการเลือกปลูกวิธีใดขึ้นอยู่กับความสะดวกและความถนัด

- มะระ เป็นพืชผักล้มลุกลำต้นเป็นเถา ชอบดินร่วนซุย น้ำไม่ขัง เป็นพืชผักที่อายุสั้น ซึ่งถ้าหากนับจากวันเริ่มปลูกถึงวันเก็บผลผลิตได้ประมาณ 45-55 วันขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก แต่ก่อนที่จะปลูกต้องทำความเข้าใจว่าการปลูกมะระนั้น ต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษโดยเฉพาะในเรื่องการดูแลกำจัดแมลง เนื่องจากเมื่อแมลงเข้าทำลาย จะทำให้ผลร่วงหรือแคระแกร็นได้ 

- ตะไคร้ หายากมากนะคะ บ้านไหนที่ไม่มีตะไคร้ เพราะเป็นพืชที่มีประโยชน์หลายด้าน นอกจากนำมาปรุงอาหารแล้ว ยังช่วยป้องกันหน้าดินด้วย ยิ่งปลูกไว้ข้าง ๆ บ่อจะช่วยกันการกัดเซาะของน้ำได้ดีมากทีเดียว ตะไคร้เป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก แค่เพียงดินมีความชุ่มชื้นก็จะแตกหน่อออกมามากมายแล้วค่ะ

- มะเขือเทศ เป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นต้องให้น้ำตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงเริ่มแก่หรือผลเริ่มเปลี่ยนสี หลังจากนั้นลดการให้น้ำเพื่อป้องกันผลแตก การปลูกมะเขือเทศเพื่อรับประทานผลสด นิยมแบบขึ้นค้าง ควรตัดแต่งกิ่งให้เหลือเพียง 1-2 กิ่งต่อต้น เพื่อให้มะเขือเทศที่ได้มีผลใหญ่ การเก็บผลผลิตเริ่มเมื่อมะเขือเทศมีอายุประมาณ 70-90 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดประมาณ 4-5 เดือน  

- ตำลึง สัญลักษณ์ของผักสวนครัวรั้วกินได้ เรามักเห็นตำลึงขึ้นเองตามธรรมชาติ แน่นอนว่าสามารถปลูกได้ง่ายมากเพียงแค่ดินมีความชุ่มชื้นเป็นอย่างดี เหมาะแก่การปลูกริมรั้วเป็นไม้เลื้อยตามรั้วบ้าน

- โหระพา และ แมงลัก ลักษณะของต้นโหระพาและแมงลักมีลักษณะคล้ายคลึงกับต้นกะเพรา โดยขนาดของทรงพุ่มก็ใกล้เคียงกันคือ มีความสูงไม่เกิน 60 เซนติเมตร ลักษณะต้นและใบคล้ายกัน จะต่างกันตรงกลิ่น และสีไม่เหมือนกัน ใบของโหระพานั้นใบเป็นมัน และหนากว่า ก้านใบและลำต้นมีสีม่วงแดง ส่วนใบของแมงลักมีสีเขียวอ่อน ก้านใบและลำต้นก็มีสีเขียวอ่อนเช่นกัน และมีขนอ่อนอยู่ตามใบและก้านดอก

- บวบ ลักษณะพิเศษของบวบ คือ ทนแล้ง ทนฝน ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน แต่มีข้อควรระวังคือ เมื่อแรกปลูกจนถึงขึ้นค้างมักมีแมลงมากัดยอด แต่พอทอดยอดขึ้นค้างแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแมลงอีกต่อไป ปลูกง่ายไม่ต้องมีการดูแลมาก ให้ขึ้นเลื้อยตามต้นไม้ได้เป็นอย่างดี

ผักสวนครัวรั้วกินได้เหล่านี้ นอกจากจะปลูกเป็นแนวรั้วแนวเขตได้ ปลูกเป็นงานอดิเรก หรือปลูกเพื่อความสวยงาม สุดท้ายแล้ว ผลผลิตจากผักเหล่านี้ เราสามารถนำไปปรุงอาหาร แบ่งขาย หรือแบ่งปันเพื่อนบ้านได้ มีข้อดีเยอะแบบนี้ ใครที่ยังไม่มีรั้วกินได้ ก็รีบลงมือปลูกเสียตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ

https://ewt.prd.go.th/

http://imaginbetterthanknowledge.blogspot.com/

https://www.thaiwaste.com/

https://matemnews.com/News/75394

https://farmerspace.co/