หน้าแรก

สวัสดีงามๆค่ะมิตรรักทุกท่าน วันนี้ข้าพเจ้ามีเมนูอาหารคาวที่แซ่บนัวมาฝากค่ะ รับรองว่า กินแล้วดี มีประโยชน์ ทำง่าย หาง่าย เข้ากับสไตล์มิตรชาวไร่แน่นอน และเมนูแนะนำสำหรับวันนี้คือ “หม่ำขี้ปลา” กับ “บัวลอยแก้วอัญชัน”

“หม่ำขี้ปลา”

ชื่อเมนูอาจดูไม่น่าฟัง แต่ถ้าได้ลองทำชิมแล้วจะติดใจ เมนูนี้เป็นวิธีถนอมอาหารของชาวอีสานแบบดั้งเดิม สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลายอย่างนะคะ

วิธีทำ :  

  1. ควัก ตับ ไต ไส้ พุง และขี้ปลา ออกจากปลานานาชนิด (ที่จะนำไปทำอาหารอย่างอื่น)
  2. นำเครื่องในปลาและขี้ปลาที่ได้ มาคลุกกับข้าวเหนียวซาวน้ำ
  3. ตำส่วนผสม เกลือ กระเทียม และข้าวสวย นำไปคลุกเคล้ากับเครื่องในและขี้ปลาที่ผสมกับข้าวเหนียวซาวน้ำไว้แล้ว จากนั้นหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน

เมื่อเครื่องปรุงต่าง ๆ เข้าเนื้อกันดีก็จะได้หม่ำขี้ปลารสชาติกลมกล่อม แต่ถ้าหมักหลายวันก็จะได้ความเปรี้ยวเพิ่มขึ้นเหมือนแหนม แล้วนำหม่ำขี้ปลาไปปรุงเป็นเมนูรสเด็ด โดยนำไปคั่วกับเครื่องแกง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย คั่วให้สุกจนแห้งแล้วปรุงรสด้วย น้ำปลา มะนาว ตามชอบ แต่อย่าลืมใส่พริกขี้หนูลงไปด้วยเพื่อเพิ่มระดับความแซ่บ ทานเคียงด้วยผักนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักพื้นบ้าน หรือผักปลอดสารพิษ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูง่าย ๆ เพื่อสุขภาพแถมอร่อยเด็ดอีกต่างหาก หรือถ้าใครอยากได้สารอาหารเพิ่มขึ้น ก็ลองทำเมนู “ไข่เจียวหม่ำขี้ปลา” รับรองว่าอร่อยไม่แพ้กันค่ะ

เสร็จจากอาหารคาวก็ต่อด้วยอาหารหวานเพื่อเพิ่มพลัง ซึ่งเราขอแนะนำขนมไทยสูตรประยุกต์กับเมนู “บัวลอยแก้วอัญชัน” ที่มีความแตกต่างจากบัวลอยธรรมดา ตรงที่บัวลอยแก้วจะมีลักษณะใส ๆ กว่าบัวลอยปกติ เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม แต่ข้างในจะกรุบ ๆ กว่านั่นเอง

“บัวลอยแก้วอัญชัน”

ส่วนผสม

  • แป้งมัน 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
  • ดอกอัญชันสด 20 - 25 ดอก
  • มะพร้าวอ่อนหั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย  
  • หัวกะทิ 100 มิลลิลิตร
  • กะทิ 300 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทรายขาว 3/4 ถ้วย ถึง 1 ถ้วย (แล้วแต่ชอบหวานมากหรือน้อย)
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • ใบเตยล้างสะอาดมัดรวมกัน 3 ใบ
  • เม็ดข้าวโพดต้มสุก 1/3 ถ้วย

วิธีทำ :  

  1. เตรียมน้ำดอกอัญชัน เทน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ใส่หม้อต้ม แล้วใส่ดอกอัญชันที่ล้างสะอาดแล้วลงต้มด้วยไฟกลาง
  2. เมื่อได้น้ำอัญชันสีน้ำเงินเข้ม กรองเอาดอกทิ้ง แล้วเทน้ำอัญชันร้อน ๆ ลงในกะละมังแป้งที่เตรียมไว้ ใช้ไม้พายคนให้เข้าเนื้อกัน
  3. จากนั้นใช้มือนวดแป้ง (ระหว่างนวดหมั่นเติมแป้งมันทีละนิดเพื่อไม่ให้แป้งติดมือ) นวดจนได้เนื้อแป้งเนียนนุ่ม แบ่งปั้นเป็นลูกกลม ๆ หรือทำเป็นเส้นยาวแล้วตัดเป็นตัวบัวลอยชิ้นเล็ก ๆ
  4. เตรียมน้ำกะทิ โดยเทกะทิใส่หม้อ ตามด้วยใบเตย น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนทุกอย่างให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟจนน้ำตาลละลายหมด เมื่อเดือดอ่อน ๆ ก็ปิดเตา ยกหม้อลง
  5. ต้มบัวลอยในน้ำเดือดจนสุกทั่วกัน ตักไปล้างในน้ำอุณหภูมิปกติจะได้บัวลอยแก้วสีสวย นำไปเทใส่หม้อน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ใส่มะพร้าวอ่อน ข้าวโพดตามชอบ ตั้งไฟอ่อนจนเดือดปุด ๆ
  6. ใส่หัวกะทิลงไป และรอเดือดอีกรอบก็ปิดเตา ตักเสิร์ฟได้เลย

สำหรับเมนูอาหารคาว และอาหารหวาน ที่แนะนำวันนี้ อยากให้มิตรชาวไร่ได้ลองทำดูนะคะ เป็นเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยเลิศและได้ประโยชน์ ที่สำคัญช่วยเพิ่มพลังในการลุยไร่ได้ทั้งวันอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณภาพจาก:
thai-traveller.com
youtube.com (ครัวแล้วแต่เอ๋จ้าา Official)

ข่าวปักหมุด