หน้าแรก

รู้หรือไม่ว่า คนไทยหนึ่งคน สร้างขยะมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อวัน หมายความว่า ในหนึ่งวัน คนไทยทั้งประเทศจะสร้างขยะรวมกันได้มากถึง 74,750 ตัน แต่ขยะเหลือทิ้งจำนวนมหาศาลเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่สิ่งไร้ค่าที่ต้องกำจัดเพียงอย่างเดียว เพราะขยะประมาณ 1 กิโลกรัมต่อวันที่เราเป็นคนสร้าง หากนำมาแยกประเภทก่อนทิ้ง จะได้ขยะรีไซเคิลประมาณ 25% ซึ่งเป็นขยะที่มีมูลค่าเพราะสามารถนำไปขาย สร้างรายได้อีกต่อหนึ่ง

มาดูกันว่าขยะชิ้นไหนที่สามารถนำไปขายได้

ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการแยกขยะ เริ่มง่าย ๆ ภายในบ้านของเรา โดยให้เริ่มแยกถังเป็น 4 ถัง ตามหลักการทั่วไปของการแยกขยะ ซึ่งแบ่งเป็น 4 สี ดังนี้

ถังเขียว ใส่ขยะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ ผักเหลือทิ้งหรือส่วนที่เหลือจากการปรุง เปลือกถั่ว ก้างปลา ปลายทางของขยะถังเขียวคือนำไปทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร

ถังฟ้า ใส่ขยะทั่วไป เช่น กระดาษชำระ ซองฟอยล์อะลูมิเนียม ยาง เศษผ้า ปลายทางของขยะถังฟ้าคือนำไปทำเชื้อเพลิง

ถังเหลือง ใส่ขยะรีไซเคิล เช่น กระดาษ ขวดพลาสติก กล่องใส่อาหารที่ล้างทำความสะอาดแล้ว กระป๋องอะลูมิเนียม กระป๋องเหล็ก พลาสติกใส แก้วสีใส ปลายทางของขยะถังเหลืองคือนำไปแปรรูปกลับมาใช้ใหม่

ถังแดง ใส่ขยะอันตราย เช่น หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ กระป๋องสเปรย์ หรืออะไรก็ตามที่ปนเปื้อนสารเคมีอันตรายที่เป็นสารพิษ ไวไฟ หรือมีฤทธิ์กัดกร่อนได้ ปลายทางของขยะถังแดงคือนำไปทำลายทิ้งอย่างถูกวิธี ป้องกันไม่ให้สารเคมีตกค้างในธรรมชาติ

003.jpg

หากภายในบ้านไม่มีถังขยะแบ่งตามสี สามารถใช้อะไรก็ได้เอาไว้ใส่ขยะ อาจเป็นกล่องหรือถุงขนาดใหญ่ พร้อมกับเขียนประเภทขยะติดเอาไว้ให้ชัดเจน โดยขยะที่เราจะให้ความสำคัญมากที่สุดคือขยะในถังเหลืองหรือขยะรีไซเคิล เพราะเป็นขยะที่จัดการง่ายและนำไปขายได้ราคา ซึ่งขยะรีไซเคิลแต่ละประเภท ต่างก็มีวิธีคัดแยกและจัดการที่แตกต่างกันออกไป

เมื่อแยกขยะได้แล้ว ก็สามารถนำขยะไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าได้ โดยขยะแต่ละประเภทสามารถขายได้ดังนี้

ขยะประเภทกระดาษ ขยะรีไซเคิลประเภทกระดาษที่ร้านรับซื้อของเก่าทั่วไปนิยมรับซื้อ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  1. กระดาษคราฟต์(Kraft Paper) เช่น กระดาษลัง กระดาษกล่องไปรษณีย์ หรือกระดาษลูกฟูก ซึ่งเป็นกระดาษสีน้ำตาลที่ไม่ผ่านการฟอกสี ขายได้ 3 บาท/กิโลกรัม
  2. กระดาษหนังสือพิมพ์ขายได้ 3 บาท/กิโลกรัม
  3. กระดาษขนาด A4 ที่ผ่านการฟอกสีจนขาว ให้นำลวดเย็บกระดาษออกให้เรียบร้อยก่อนคัดแยกประเภท คือ กระดาษพิมพ์สีและมีหมึกปากกาสีแดงหรือปากกาเน้นข้อความ ขายได้ 1 บาท/กิโลกรัม ส่วนกระดาษขาวดำ ต้องพิมพ์ด้วยสีดำหรือสีน้ำเงิน อนุโลมให้มีหมึกปากกาสีดำและน้ำเงินเท่านั้น ขายได้ 5 บาท/กิโลกรัม
  4. กระดาษเศษเป็นกระดาษอื่น ๆ ที่เหลือ เช่น หนังสือเล่ม นิตยสารเล่ม ใบปลิว ขายได้ 1 บาท/กิโลกรัม

หลังจากคัดแยกกระดาษแต่ละประเภทเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้เชือกมัดเป็นตั้ง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกขณะขนย้ายกับตอนชั่งน้ำหนักที่จุดรับซื้อขยะรีไซเคิล

ขยะประเภทขวดพลาสติก ขยะรีไซเคิลประเภทขวดพลาสติกที่ร้านรับซื้อของเก่าทั่วไปนิยมรับซื้อ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. ขวดใส(พลาสติก PET หรือ PETE) สังเกตได้จากใต้ขวด จะมีสัญลักษณ์เลข 1 อยู่ในสามเหลี่ยม เช่น ขวดพลาสติกบรรจุน้ำดื่ม ขวดน้ำมันพืช ขายได้ 9 บาท/กิโลกรัม
  2. ขวดขุ่นเหนียว(พลาสติก HDPE) สังเกตได้จากใต้ขวด จะมีสัญลักษณ์เลข 2 อยู่ในสามเหลี่ยม เช่น ขวดนม แกลลอนนม ขายได้ 15 บาท/กิโลกรัม
  3. ฝาขวด(พลาสติก PP) สังเกตได้จากใต้ฝา จะมีสัญลักษณ์เลข 5 อยู่ในสามเหลี่ยม ขายได้ 5 บาท/กิโลกรัม

ขยะประเภทกระป๋องโลหะ ขยะรีไซเคิลประเภทกระป๋องโลหะที่ร้านรับซื้อของเก่าทั่วไปนิยมรับซื้อ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. กระป๋องอะลูมิเนียมสังเกตได้จากก้นกระป๋องมีลักษณะเว้า เช่น กระป๋องน้ำอัดลม กระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรล้างทำความสะอาดแล้วเหยียบให้แบน ขายได้ 40 บาท/กิโลกรัม
  2. กระป๋องเหล็กและสังกะสีสังเกตได้จากก้นกระป๋องเรียบแบน เช่น กระป๋องบรรจุอาหาร ควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ขายได้ 4 บาท/กิโลกรัม
  3. ห่วงฝากระป๋องแกะออกจากตัวกระป๋อง ทั้งกระป๋องอะลูมิเนียม กระป๋องเหล็ก และกระป๋องสังกะสี นำมาแยกขายได้20 บาท/กิโลกรัม

ขยะประเภทขวดแก้ว ขยะรีไซเคิลประเภทขวดแก้วที่ร้านรับซื้อของเก่าทั่วไปนิยมรับซื้อ  แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

  1. ขวดแก้วสีชาใสเช่น ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ขายได้ 1.5 บาท/กิโลกรัม
  2. ขวดแก้วใสทั่วไปขายได้ 2 บาท/กิโลกรัม
  3. ขวดแก้วบรรจุเหล้าขาวขายได้ 10 บาท/กิโลกรัม
  4. ขวดแก้วบรรจุแอลกอฮอล์สีชาใสขายได้ 11 บาท/กิโลกรัม
  5. ขวดแก้วบรรจุแอลกอฮอล์สีเขียวใสขายได้ 15 บาท/กิโลกรัม

ขยะประเภทขวดน้ำมันพืช

น้ำมันพืชเก่าที่ผ่านการปรุงอาหารมาแล้ว หากเททิ้งไม่ถูกวิธี มักจะทำให้ท่อน้ำในบ้านอุดตันได้ แนะนำให้กรองเศษอาหารออก บรรจุกลับใส่ขวด แล้วนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าหรือปั๊มน้ำมันบางแห่ง เพื่อแปรรูปเป็นน้ำมันไบโอดีเซลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงไร้สารพิษ ซึ่งเป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากว่าน้ำมันปิโตรเลียม น้ำมันพืชใช้แล้วขายได้ 13 บาท/กิโลกรัม

หวังว่าข้อมูลการแยกขยะรีไซเคิลดังกล่าวข้างต้น จะทำให้ทุกคนก็สามารถจัดการแยกขยะเพื่อนำไปขายได้ แต่ราคาขยะรีไซเคิลทุกประเภทที่ร้านรับซื้อของเก่าทั่วไปนิยมรับซื้อ อาจผันผวนไปตามความต้องการของโรงงานรีไซเคิลขยะ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบราคารับซื้อในแต่ละวันก่อนนำขยะไปขาย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

https://www.livetolife.com/

https://www.bangkokbiznews.com/

http://www.recyclechon.com/

 

ข่าวปักหมุด