- หลากสไตล์มิตรชาวไร่
- อ., 6 ก.พ. 61
เครื่องดื่มรสหวาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม ชาไข่มุก กาแฟปรุงสำเร็จ หรือน้ำชงรสผลไม้ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทยทุกเพศทุกวัย ความหอมหวานและสดชื่นทำให้หลายคนดื่มเป็นประจำ แต่หารู้ไม่ว่า การบริโภคเครื่องดื่มเหล่านี้มากเกินไปอาจนำไปสู่โรคเบาหวาน โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ วันนี้มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มจะแนะนำวิธีเลือกดื่มน้ำหวานอย่างฉลาด เพื่อให้คุณยังคงสามารถเพลิดเพลินกับความหวานได้โดยไม่ทำร้ายสุขภาพ
เครื่องดื่มรสหวานส่วนใหญ่มีน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก โดยเฉลี่ยน้ำอัดลมขนาด 500 มล. มีน้ำตาลประมาณ 50-60 กรัม ซึ่งเกินกว่าปริมาณน้ำตาลที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคต่อวันถึง 2 เท่า (ไม่เกิน 25 กรัมต่อวัน) ผลกระทบของการดื่มน้ำหวานมากเกินไปมีหลายประการ:
ก่อนซื้อเครื่องดื่มใด ๆ ควรตรวจสอบฉลากโภชนาการ สังเกตปริมาณน้ำตาลต่อหนึ่งหน่วยบริโภค และขนาดบรรจุ บางครั้งเครื่องดื่มขวดเดียวอาจมีหน่วยบริโภคมากกว่า 1 หน่วย ทำให้คุณได้รับน้ำตาลมากกว่าที่คิด
หากต้องการดื่มน้ำหวาน ให้เลือกขนาดเล็กที่สุด เช่น ขนาด 250 มล. แทนขนาด 500 มล. หรือใหญ่กว่า เพื่อจำกัดปริมาณน้ำตาลที่ได้รับ
ค่อย ๆ ลดระดับความหวานในเครื่องดื่มลง เช่น สั่งชานมไข่มุกแบบหวานน้อย หรือใส่น้ำตาลในกาแฟน้อยลง ต่อมรับรสของเราจะค่อย ๆ ปรับตัวจนชินกับรสชาติที่ไม่หวานมาก
หากวันนี้คุณดื่มน้ำหวานไปแล้ว ให้ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตและของหวานอื่นๆ ในมื้ออาหาร และเพิ่มการดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น
สารให้ความหวานที่ไม่มีแคลอรี่หรือมีแคลอรี่ต่ำ เช่น สตีเวียจากธรรมชาติ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าน้ำตาล แต่ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกัน
แทนที่จะดื่มน้ำหวานทุกวัน ลองกำหนดให้เป็นเครื่องดื่มพิเศษเฉพาะบางโอกาส เช่น วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันที่มีกิจกรรมพิเศษ
การดื่มน้ำหวานและน้ำชงอย่างฉลาดไม่ได้หมายถึงการงดโดยสิ้นเชิง แต่หมายถึงการเลือกบริโภคอย่างมีสติ รู้ปริมาณที่เหมาะสม และสร้างสมดุลในชีวิตประจำวัน การค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะช่วยให้คุณยังคงเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาสุขภาพในอนาคต เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว