หน้าแรก

หลายคนรู้ดีว่า “อ้อย” เป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าอ้อยจะไม่ต้องการน้ำเลย เพราะจริง ๆ แล้ว น้ำคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโต ปริมาณผลผลิต และค่าความหวานของอ้อย หากได้รับน้ำอย่างเหมาะสมและต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงระยะเก็บเกี่ยว จะช่วยให้อ้อยเติบโตแข็งแรง ให้ผลผลิตดี และสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างแท้จริง

อ้อยต้องการน้ำในช่วงไหนบ้าง?

แม้อ้อยจะปลูกได้ในฤดูแล้ง แต่ความต้องการน้ำในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตจะแตกต่างกัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 ระยะหลัก ดังนี้

  1. ระยะงอก (germination phase) (อายุ 0–1 เดือน)
    ช่วงนี้อ้อยเริ่มแทงยอดออกจากท่อนพันธุ์ หากขาดน้ำจะทำให้อ้อยไม่งอกหรือแทงยอดช้า การให้น้ำทันทีหลังปลูกจึงช่วยส่งเสริมการงอกได้ดีขึ้น
  2. ระยะแตกกอ (tillering phase) (อายุ 1–5 เดือน)
    อ้อยจะสร้างใบและยืดลำต้นอย่างรวดเร็ว ต้องการน้ำสูงมาก หากขาดน้ำต้นจะเตี้ย ใบเหลือง ลำต้นไม่โต ส่งผลให้ผลผลิตลดลงอย่างชัดเจน
  3. ระยะย่างปล้อง (stalk elongation phase) (อายุ 6–8 เดือน)
    อ้อยหยุดโตและเริ่มสะสมน้ำตาลในลำต้น ช่วงนี้ถ้าดินมีความชื้นเหมาะสม อ้อยจะสะสมความหวานได้ดี ค่าความหวานสูง ส่งผลให้ขายได้ราคาดี
  4. ระยะใกล้เก็บเกี่ยวระยะแก่และสุก (maturity and ripening phase) (อายุ 9–12 เดือนขึ้นไป)
    อ้อยต้องการน้ำน้อยลง แต่ยังต้องมีความชื้นในดินพอสมควรเพื่อป้องกันลำต้นแห้งหรือล้ม หากฝนตกหนักช่วงนี้อาจทำให้น้ำตาลในลำต้นเจือจาง ค่าความหวานลดลง

จากข้อมูลกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่า อ้อยต้องการน้ำเฉลี่ยประมาณ 1,200–1,500 มิลลิเมตรต่อรอบปลูก หากสามารถให้น้ำได้ในช่วงสำคัญ จะช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึง 30–50% เลยทีเดียว

ระบบให้น้ำแบบไหน เหมาะกับไร่อ้อย?

การให้น้ำในไร่อ้อยมีหลายรูปแบบ แต่ที่มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มแนะนำ คือระบบที่ประหยัดน้ำและมีประสิทธิภาพสูง ได้แก่

  1. ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation)
    ระบบให้น้ำแบบช้า ๆ ตรงโคนต้นอ้อย ด้วยท่อหรือสายน้ำหยด เหมาะกับไร่อ้อยขนาดกลางถึงใหญ่ ข้อดีคือ ประหยัดน้ำ ใช้แรงงานน้อย และลดการเกิดวัชพืช
  2. ระบบพ่นฝอย (Sprinkler)
    ให้น้ำกระจายเป็นฝอย เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กหรือดินที่ระบายน้ำดี แต่ควรระวังโรคใบจุดในช่วงฝนตกบ่อย
  3. ระบบโซล่าร์เซลล์ร่วมกับปั๊มน้ำ
    สำหรับไร่อ้อยที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง การใช้แผงโซล่าร์เซลล์ร่วมกับปั๊มน้ำเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้นาน และช่วยลดต้นทุนค่าไฟในระยะยาว

แม้อ้อยจะดูแข็งแรง ทนร้อนและทนแล้งได้ดี แต่หากขาดน้ำในช่วงสำคัญ ผลผลิตและค่าความหวานก็อาจลดลงแบบไม่รู้ตัว มิตรชาวไร่ที่ให้น้ำอย่างมีระบบและวางแผนอย่างมืออาชีพ จะสามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และพัฒนาไร่อ้อยให้เป็น “โมเดิร์นฟาร์ม” ได้อย่างแท้จริง

จำไว้เสมอว่า… “น้ำดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” างแผนให้น้ำให้ถูกจังหวะ ตามเวลาที่เหมาะสม และปริมาณที่พอดี แล้วผลผลิตงามจะตามมาแน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่มา 

www.doae.go.th

www.mitrpholmodernfarm.com

ข่าวปักหมุด