หน้าแรก

สวัสดีค่ะ มิตรชาวไร่ทุกท่าน เคยนึกถึงการนำพืชผักสวนครัวมาทำเป็นขนมหวานบ้างไหมคะ? พืชผักที่เราปลูกไว้ใช้ประกอบอาหารคาว สามารถนำมาแปลงโฉมเป็นขนมหวานแสนอร่อยได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อผสานเข้ากับความหอมหวานของ น้ำตาลอ้อยแท้ บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 เมนูขนมหวานไทยจากพืชผักสวนครัว ที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังดีต่อสุขภาพ และสามารถทำได้ง่าย ๆ ในครัวเรือนของเราเองค่ะ

coconut-milk-stewed-pumpkin-white-bowl.jpg

1. ฟักทองแกงบวด ความหวานละมุนจากสวนหลังบ้าน

ฟักทองเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว และอุดมไปด้วยสารอาหาร เมื่อนำมาทำเป็นแกงบวดผสมน้ำตาลอ้อย จะได้ขนมหวานรสละมุน ชวนให้ลิ้มลอง

ส่วนผสม

  • ฟักทองสุก 300 กรัม
  • น้ำตาลอ้อยทรายแดง 150 กรัม
  • กะทิ 400 มิลลิลิตร
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตย 2–3 ใบ

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอคำ
  2. ใส่กะทิครึ่งหนึ่งลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลอ้อยทรายแดง เกลือ และใบเตย ต้มจนน้ำตาลละลาย
  3. ใส่ฟักทองลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนฟักทองนุ่ม
  4. เติมกะทิที่เหลือ เคี่ยวต่ออีกเล็กน้อย เสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น

น้ำตาลอ้อยทรายแดงให้รสชาติหวานเข้มและกลิ่นหอมเฉพาะตัว เข้ากันดีกับความนุ่มหวานของฟักทอง

 

2. มันเทศเชื่อม ความหวานธรรมชาติเพิ่มพลัง

มันเทศเป็นพืชหัวที่ให้รสหวานในตัวเอง เมื่อนำมาเชื่อมกับน้ำตาลอ้อย จะได้ขนมหวานรสกลมกล่อม และเป็นแหล่งพลังงานที่ดี

ส่วนผสม

  • มันเทศหวาน 500 กรัม
  • น้ำตาลอ้อยทรายดิบ 200 กรัม
  • น้ำ 500 มิลลิลิตร
  • ขิงแก่หั่นบาง 5–6 แว่น
  • ใบเตย 3–4 ใบ

วิธีทำ

  1. ล้างมันเทศ ปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  2. ใส่น้ำลงในหม้อ เติมน้ำตาลอ้อยทรายดิบ ขิง และใบเตย ต้มจนน้ำตาลละลาย
  3. ใส่มันเทศลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนมันเทศนุ่มและน้ำเชื่อมข้น
  4. พักไว้ให้เย็นก่อนเสิร์ฟ

น้ำตาลอ้อยทรายดิบมีแร่ธาตุและวิตามินสูง เมื่อผสานกับมันเทศที่อุดมไปด้วยวิตามินเอและใยอาหาร ยิ่งเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ

banana-coconut-milk-asian-traditional-thai-desserts-thai-des

3. กล้วยบวชชี ความหอมหวานจากสวนไทย

กล้วยเป็นผลไม้ที่พบได้แทบทุกบ้าน เมื่อนำมาทำกล้วยบวชชีโดยใช้น้ำตาลอ้อย จะได้ขนมไทยหอมหวานที่ลงตัว

ส่วนผสม

  • กล้วยน้ำว้าสุก 6 ผล
  • กะทิ 400 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลอ้อยทรายขาว 100 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตย 2–3 ใบ

วิธีทำ

  1. ปอกกล้วย หั่นตามขวาง
  2. ใส่กะทิลงหม้อ เติมน้ำตาลอ้อยทรายขาว เกลือ และใบเตย ต้มจนน้ำตาลละลาย
  3. ใส่กล้วยลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อน โดยไม่คนมาก เพื่อไม่ให้กล้วยเละ
  4. เสิร์ฟร้อน โรยงาขาวคั่วหอม ๆ

น้ำตาลอ้อยทรายขาวให้ความหวานพอดี ไม่กลบรสชาติธรรมชาติของกล้วย

 

4. เผือกแกงบวด ความนุ่มละมุนจากใต้ดิน

เผือกเป็นพืชหัวที่มีรสมันและหอม เมื่อนำมาทำแกงบวดกับน้ำตาลอ้อย จะได้ขนมหวานที่นุ่มละมุนและอร่อยล้ำ

ส่วนผสม

  • เผือกสด 300 กรัม
  • กะทิ 400 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลอ้อยทรายแดง 120 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตย 2–3 ใบ

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกเผือก ล้างและหั่นเป็นลูกเต๋า
  2. ใส่กะทิครึ่งหนึ่งลงในหม้อ เติมน้ำตาลอ้อยทรายแดง เกลือ และใบเตย ต้มจนน้ำตาลละลาย
  3. ใส่เผือกลงไป เคี่ยวจนเผือกนุ่ม
  4. เติมกะทิที่เหลือ เคี่ยวต่ออีกเล็กน้อย เสิร์ฟได้ตามชอบ

น้ำตาลอ้อยทรายแดงมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เข้ากับความมันของเผือกอย่างลงตัว

 

5. วุ้นใบเตยลอยแก้วความหอมสดชื่นจากสมุนไพรไทย

ใบเตยมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำมาทำลอยแก้ว จะได้ขนมหวานที่ทั้งหอม สดชื่น และมีประโยชน์

ส่วนผสม

  • ใบเตยสด 15–20 ใบ
  • น้ำตาลอ้อยทรายขาว 150 กรัม
  • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  • วุ้นผง 15 กรัม
  • น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร (สำหรับแช่วุ้น)

วิธีทำ

  1. ล้างใบเตย หั่นเป็นท่อน
  2. ปั่นใบเตยกับน้ำ 200 มิลลิลิตร แล้วกรองเอาแต่น้ำ
  3. ผสมน้ำใบเตยกับน้ำที่เหลือ เติมน้ำตาลอ้อย ต้มจนน้ำตาลละลาย
  4. แช่วุ้นผงในน้ำ 100 มิลลิลิตร แล้วผสมกับน้ำใบเตย
  5. เทใส่พิมพ์ ทิ้งให้เย็นจนเซตตัว หั่นเป็นชิ้น เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง

น้ำตาลอ้อยทรายขาวให้ความหวานอ่อนละมุน ไม่กลบกลิ่นหอมธรรมชาติของใบเตย

จากทั้ง 5 เมนู จะเห็นได้ว่าพืชผักสวนครัวที่เราคุ้นเคย สามารถนำมาทำขนมหวานไทยได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสานกับน้ำตาลอ้อย ซึ่งไม่เพียงให้รสชาติหวานกลมกล่อมแบบธรรมชาติ แต่ยังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับขนมของเราอีกด้วย

การใช้วัตถุดิบจากสวนครัวยังช่วยลดค่าใช้จ่าย และเป็นการใช้ผลผลิตที่เราปลูกเองอย่างคุ้มค่า ทั้งยังมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบนั้นสดใหม่และปลอดภัย ลองนำเมนูเหล่านี้ไปลองทำกันดูนะคะ รับรองว่าได้ขนมหวานที่ทั้งอร่อย มีประโยชน์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแน่นอนค่ะ

ข่าวปักหมุด